วันนี้เซสก์ ฟาเบรกัสได้ย้ายไปเล่นให้โมนาโกเรียบร้อยแล้ว
กองกลางของเรารายนี้ย้ายไปเล่นในลีกเอิง ปิดม่านการค้าแข้งกับเชลซี 4 ปีครึ่งลง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาคว้าแชมป์ได้ 4 ถ้วย โดยมีพรีเมียร์ลีกสองสมัย
นักเตะชาวสเปนรายนี้ลงเล่นให้เชลซีไปรวม 198 นัด ยิง 22 ประตู
เราขอขอบคุณการทำงานที่ยอดเยี่ยมของเซสก์ตลอดมา และขออวยพรให้เขาโชคดีกับการค้าแข้งในอนาคต
อำลาฟาเบรกัส
เซสก์ ฟาเบรกัสย้ายมาเล่นที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ในฐานะแชมป์ยุโรปและแชมป์ฟุตบอลโลกกับทีมชาติสเปน แต่ในระดับสโมสร กองกลางรายนี้มีช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จอย่างมากกับเชลซี มีบทบาทสำคัญในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสองสมัย, เอฟเอ คัพ และลีก คัพ หนึ่งสมัย
นักเตะผู้มีความสามารถในการจ่ายบอลชั้นยอด สายตาที่มุ่งไปที่ประตู และความสามารถในการเล่นกับบอลท่ามกลางแรงกดดันในสนาม ฟาเบรกัสมีบทบาทสำคัญในแดนกลางของเชลซีมานานกว่าสี่ปีครึ่งแล้ว
เขาย้ายออกจากทีมไปพร้อมกับสถิติทำแอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีกได้สูงที่สุดเป็นอันดับสอง โดยทำได้รวม 111 ครั้ง หลังจากลงเล่นครบ 350 นัดในเกมที่พบกับเซาท์แฮมป์ตัน และเขาก็ยังเป็นคนที่ทำสถิติแอสซิสต์ครบ 100 ประตูในพรีเมียร์ลีกได้เร็วที่สุดด้วย โดยทำได้หลังลงแข่งเพียง 293 นัด
ฟาเบรกัสเซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมเชลซีในปี 2014 และแฟนบอลเชลซีไม่ต้องรอนานเลยในการที่จะได้เห็นความสามารถในการเปิดพื้นที่แนวรับคู่แข่งและจ่ายบอลได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก่อนจะมายิงประตูแรกของตัวเองได้ในเกมแชมป์เปี้ยนส์ ลีกที่พบกับชาลเก้
ฟาเบรกัสลงเล่นข้างเนมันญ่า มาติชในแผน 4-2-3-1 และเชลซีไม่แพ้ใครติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกไปจนถึงต้นเดือนธันวาคม ครองอันดับจ่าฝูงในช่วงคริสต์มาส
ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ ฟาเบรกัสคว้าถ้วยแรกกับเชลซีได้ในเกมที่ชนะท็อตแน่ม 2-0 ในลีก คัพ รอบชิงชนะเลิศ นักเตะชาวสเปนรายนี้จ่ายบอลให้ดิเอโก้ คอสต้ายิงประตูที่สองให้เรา
ฟาเบรกัสยิงประตูสำคัญที่สุดในฤดูกาลได้จากประตูชัยในเกมเยือนคิวพีอาร์ ในนาทีที่ 88 และยังทำแอสซิสต์ไปรวม 24 ครั้งในพรีเมียร์ลีก และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกในการค้าแข้งของเขา
ฤดูกาลที่สองของฟาเบรกัสกับเชลซีเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่น่าผิดหวัง แต่เขาก็ยังได้ลงสนามสูงสุด หนึ่งใน 6 ประตูของเขาได้มาจากฟรีคิกสุดสวยในเกมที่เสมอเวสต์ แฮม 2-2 ที่เดอะบริดจ์
บททดสอบครั้งใหญ่ที่สุดของเขากับเชลซีเริ่มขึ้นเมื่ออันโตนิโอ คอนเต้เข้ามาคุมทีมในปี 2016 และเปลี่ยนไปใช้แผน 3-4-3 ในช่วงต้นฤกาล โดยมาติชและเอ็นโกโล่ ก็องเต้ลงคู่กันในแดนกลาง
ฟาเบรกัสมักจะลงเป็นตัวสำรองในช่วงต้นฤดูกาล แต่เขาก็ยังคงมีผลที่ดีกับทีม โดยในเกมเยือนนัดแรกของฤดูกาล เขาจ่ายบอลให้ดิเอโก้ ตอสต้ายิงประตูได้ในเกมพบวัตฟอร์ด และเขามายิงสองประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษช่วยให้เราพลิกจากที่ตามหลังมาชนะเลสเตอร์ได้ในลีก คัพ
ฟาเบรกัสมีส่วนร่วมในเกมมากขึ้นเรื่อยๆ และมาติชมาเจ็บในเดือนธันวาคม ทำให้ฟาเบรกัสสร้างความประทับใจได้ในเกมพบแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่ายบอลให้ดิเอโก้ คอสต้ายิงในเกมที่ชนะ 3-1 และยังปั่นจากนอกกรอบเข้าประตูกลายเป็นประตูโทนของเกมได้สำเร็จ และยังทำแอสซิสต์ได้อีกสองครั้งในเกมที่พบสโต๊ค ซิตี้ ทำให้เราชนะติดต่อกัน 13 นัด
ฟาเบรกัสเป็นนักเตะคนแรกที่ทำแอสซิสต์ได้ 10 ครั้งในเกมพรีเมียร์ลีก 6 ฤดูกาล เมื่อเราเอาชนะมิดเดิ้ลสโบรห์ได้ในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่สองในเกมเยือนเวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน โดยฟาเบรกัสลงเล่นเต็มเกมนั้นด้วย
ฟาเบรกัสลงเล่นให้เชลซีครบ 100 นัดในเกมลีกที่ชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 และหลังจากที่ยิงประตูชัยอันยอดเยี่ยมได้ในเกมพบสวอนซีที่ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยมเขาก็มาจ่ายบอลให้อาซาร์ก่อนที่เขาจะโดนฟิล โจนส์ทำฟาวล์ในเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ นักเตะชาวเบลเยี่ยมมายิงจุดโทษเข้าไป ทำให้ฟาเบรกัสคว้าแชมป์รายการใหญ่ในประเทศได้สำเร็จกับเชลซี
ฤดูกาลนี้ฟาเบรกัสไม่ค่อยได้มีโอกาสมากนักในเกมพรีเมียร์ลีก แต่เขามีส่วนอย่างมากในเกมยูโรป้า ลีก และลีก คัพ ประตูของเขาทำให้เราเอาชนะดาร์บี้ เคาน์ตี้ได้ในเกมรอบที่ 4
ฟาเบรกัสลงเล่นในพรีเมียร์ลีกครบ 350 นัดในเกมพบเซาท์แฮมป์ตัน และเกมสุดท้ายของเขากับเชลซีคือเกมพบน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ในเอฟเอ คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ฟาเบรกัสทำประตูให้เชลซีรวม 22 ประตู ออกจากสโมสรไปหลังจากที่ช่วยทีมประสบความสำเร็จมากมาย และยังทำให้แฟนบอลของเราได้มีความทรงจำที่งดงามมากมายด้วย
ทุกคนที่สโมสรฟุตบอลเชลซีขออวยพรให้เขาประสบความสำเร็จในอนาคต
ขอบคุณมากเซสก์!