เปิดสถิติเกมเอฟเอ คัพ นัดล่าสุดที่เจอกับฮัลล์ แสดงให้เห็นผลงานของกองกลางที่ลงเป็นตัวจริง และอีกสองคนที่ลงเป็นตัวสำรอง...
เชลซีมีโอกาสยิงรวม 16 ครั้ง มี 7 ครั้งที่เข้ากรอบ และอีก 5 ครั้งที่ติดบล็อค
มิชี่ บัตชูอายี่ และฟิกาโย โทโมรี สองผู้ทำประตูของเรา และเมสัน เมาท์ มีโอกาสยิงไปคนละ 3 ครั้ง
บัตชูอายี่มีส่วนร่วมในการทำ 18 ประตูจากการลงเป็นตัวจริงในเกมบอลถ้วย 18 นัด (เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ) ที่เล่นให้เชลซีและคริสตัล พาเลซรวมกัน ยิงไป 15 ประตูและแอสซิสต์ 3 ประตู
ฮัลล์มีโอกาสยิงเข้าเป้า 14 ครั้ง มี 2 ครั้งที่เข้ากรอบ และ 8 ครั้งที่ยิงจากนอกกรอบ
จาร์รอด โบเว่นยิง 6 ครั้ง เป็นจำนวนสูงสุดในเกมนี้
เชลซีมีอัตราการครองบอล 64.9% มาเตโอ โควาซิชใช้เวลาครองบอลมากที่สุด (8.9%) รองมาคือเปโดร (7.4%) และมาร์กอส อลอนโซ่ (7%)
โควาซิลจับบอลมากสุด (98) และจ่ายบอลสำเร็จสูงสุดด้วย (68)
ในบรรดานักเตะที่ลงเป็นตัวจริง โทโมรีมีอัตราการจ่ายบอลสำเร็จสูงสุด (93%) รองมาคือรอสส์ บาร์คลี่ย์ (90%)
แฟรงค์ แลมพาร์ดกล่าวชมผลงานของบิลลี่ กิลมอร์หลังถูกเปลี่ยนลงสนามมาด้วย และดาวรุ่งชาวสก็อตรายนี้จ่ายบอลสำเร็จ 18 ครั้งจากทั้งหมด 19 ครั้ง คิดเป็นอัตราสำเร็จ 95% ส่วนสถิติของทีมในช่วงนั้นของเกมคือ 80% เทียบกับ 85% ตลอดทั้ง 90 นาที
กิลมอร์จ่ายบอลมากกว่าใครในช่วง 15 นาทีสุดท้ายของเกม
เมื่อดูที่ภาพรวมของเกม เปโดรจ่ายบอลจังหวะสำคัญได้มากที่สุดที่ 3 ครั้ง สกัดบอล 4 ครั้ง มากกว่าใครในสนาม
ไม่มีใครเลี้ยงทะลวงได้มากกว่าคัลลัม ฮัดสัน-โอดอย (4) รองมาคือบาร์คลี่ย์ (3)
เซ็นเตอร์แบ็คของเราเคลียร์บอลได้รวมกัน 11 ครั้ง เคิร์ท ซูม่าทำได้ 6 ครั้ง
เชลซียังคงไม่แพ้ใครในเกม 27 นัดล่าสุดในทุกรายการเมื่อนำก่อนในช่วงครึ่งแรก (ชนะ 21 เสมอ 6) นับตั้งแต่ที่แพ้วูล์ฟในพรีเมียร์ลีกเมื่อเดือนธันวาคม 2018