เปิดสถิติเกมสุดเดือดที่พบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา สองกองกลางของเชลซีทำผลงานโดดเด่น...
เรามีโอกาสยิงรวม 17 ครั้ง มีครั้งเดียวที่เข้ากรอบคือช่วงท้ายเกมที่เซซาร์ อัซปิลิเกวต้ายิง ประตูที่โดน VAR ริบไปนั้นไม่นับ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบล็อคลูกยิงของเราได้ 10 จาก 17 ครั้ง ขณะที่เชลซีบล็อคได้ 2 ครั้งจาก 9 ครั้งของคู่แข่ง
อัซปิลิเกวต้าเป็นหนึ่งในสี่นักเตะที่ยิงเข้ากรอบได้สามครั้ง เมสัน เมาท์และเปโดรเป็นอีกสองคนที่ทำได้
ทั้งสองทีมมีจังหวะยิงติดเสาครั้งหนึ่งจากลูกนิ่ง
เรามีอัตราการครองบอลอยู่ที่ 61% กองกลางของเราสองคนที่ลงเล่นเต็ม 90 นาที จอร์จินโญ่ (8.4%) และมาเตโอ โควาซิช (7.9%) ใช้เวลาในการครองบอลมากที่สุด
โควาซิชจับบอลมากทีสุด (101) รองมาคือจอร์จินโญ่และรีซ เจมส์ (98)
เรามีอัตราการจ่ายบอลสำเร็จอยู่ที่ 87% จอร์จินโญ่และบัตชูอายี่ (94%) เป็นผู้ที่จ่ายบอลแม่นที่สุด
จอร์จินโญ่จ่ายบอลสำเร็จมากที่สุด (81) รองมาคือโควาซิช (69) และเจมส์ (61)
เปโดรและบรูโน่ แฟร์นันเดสจ่ายบอลจังหวะสำคัญได้มากสุด (3 ครั้ง)
โควาซิชเลี้ยงทะลวงได้มากที่สุดที่ 4 ครั้ง
จากการดวลกลางอากาศ 30 ครั้งในเกมนี้ ทั้งสองทีมชนะกันไปทีมละ 15 ครั้ง เอริค ไบญี่ทำได้มากสุด (5) รองมาคือเคิร์ท ซูม่า (4) โดยกองหลังฝรั่งเศสลงเล่นหลังพักครึ่ง
ซูม่าลงมาแทนแอนเดรียส คริสเตนเซ่นที่สกัดบอลได้มากสุด 4 ครั้ง ก่อนจะถูกเปลี่ยนออก วิลเลี่ยนและจอร์จินโญ่ทำได้ 3 ครั้ง
ซูม่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ตัดบอลได้สองครั้ง โดยแฮร์รี่ แม็กไกวร์ทำได้ 4 ครั้ง
เชลซีแพ้เกมเหย้าทั้ง 5 นัดที่เสียประตูก่อน ในฤดูกาลนี้มีแค่นอริชและเวสต์ แฮมที่ล้มเหลวในการแย่งแต้มคืนในเกมเหย้าเมื่อเสียประตูก่อน ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้