ทุกสายตาจับจ้องไปยังการแข่งขันที่เวมบลีย์ โดยศึกลอนดอน ดาร์บี้ จะเป็นตัวตัดสินผู้ชนะในรายการฟุตบอลถ้วยของฤดูกาลนี้ ริค แกลนวิลล์ กับพอล ดัตตัน นักประวัติศาสตร์และนักสถิติของสโมสร จะพาคุณเจาะลึกข้อมูลก่อนเกมชิงดำนัดนี้กัน...
หนึ่งสัปดาห์หลังจากคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ เชลซี มีโอกาสฉลองวาระการครบรอบ 50 ปีที่คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อปี 1970 ในฤดูกาลนี้
เชลซี ปะทะ อาร์เซนอล ศึกการแข่งขันของสองทีมจากลอนดอน กำลังจะทาบสถิติการพบกันมากที่สุดเคียงคู่กับ อาร์เซนอล-ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล-นิวคาสเซิ่ล, แอสตัน วิลล่า-เวสต์ บรอม และเชลซี-แมนฯ ยูไนเต็ด จากรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพทั้งหมด 139 ครั้ง นี่คือการผ่านเข้ามาเล่นรอบที่ 14 สำหรับเชลซี
ฝั่งเรามีสถิติเหนือกว่าในการพบกันช่วงหลังรวมทุกรายการ โดยคว้าชัย 3 เสมอ 5 จาก 10 นัดหลังสุดในการพบกับอาร์เซนอล การเล่นเกมรุกที่ทรงพลังดูจะเป็นวิธีการเล่นเกมรับที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองทีมในฤดูกาลนี้
อีกหนึ่งสถิติที่น่าสนใจ แฟรงค์ แลมพาร์ด อาจเป็นผู้จัดการทีมชาวผู้ดีคนแรกที่คว้าถ้วยรางวัลเมเจอร์ในประเทศอังกฤษ นับตั้งแต่แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ ซึ่งเคยได้แชมป์กับพอร์ตสมัธเมื่อปี 2008
แชมป์เอฟเอ คัพ ตั้งแต่ปี 1997
เชลซี 7 สมัย
อาร์เซนอล 7 สมัย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 สมัย
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 สมัย
ลิเวอร์พูล 2 สมัย
วีแกน 1 สมัย
พอร์ตสมัธ 1 สมัย
เชลซีเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในรายการเอฟเอ คัพ นับตั้งแต่เปลี่ยนศตวรรษใหม่ โดยผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ 9 ครั้ง (นับรวมฤดูกาลนี้) และคว้าแชมป์ได้ 6 ครั้ง
— สถิติสำคัญ
ใช้หลังสามดีหรือเปล่า
ทั้งสองฝ่ายอาจใช้แผนการเล่นที่คุ้นเคยในวันเสาร์นี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปรับแท็คติกส์มาชนกับระบบ 3-4-3 ของเชลซีในรอบรองชนะเลิศ และเป็นลูกทีมของแฟรงค์ แลมพาร์ด ที่เหนือกว่ายุติสถิติไร้พ่าย 19 นัดติดต่อกันของปีศาจแดงเอาไว้ได้
หลาย ๆ ครั้งในการแข่งขันรายการนี้ที่คู่แข่งไม่สามารถต้านทานเกมรุกของสิงห์บลูส์เอาไว้ได้ เช่นเดียวกับการทำเสียบอลหลังโดนไล่บีบในแดนกลางจากนักเตะอย่างเมสัน เมาท์, วิลเลี่ยน และมาเตโอ โควาซิช
การคัมแบ็คกลับมาเอาชนะอาร์เซนอล 2-1 ในลีกเกิดขึ้นเพราะการปรับแผนจากหลัง 3 เป็นหลัง 4 ตัวในตอนที่ทีมโดนนำอยู่ 0-1 แต่การเล่นในบ้านเชลซีเสมอกับไอ้ปืนใหญ่ 2-2 โดยใช้แผนการเล่น 4-3-3 ตลอดทั้งเกม มิเกล อาร์เตต้า เปลี่ยนไปใช้แผน 3-4-3 นับตั้งแต่นั้นโดยคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งที่เล่นด้วยระบบแผงแบ็คโฟร์อย่างลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้
หนึ่งในเหตุผลที่เชลซีเลือกใช้ระบบการเล่นนี้เป็นเพราะอาการบาดเจ็บของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ แต่เขาอาจได้มีส่วนร่วมในเกมวันเสาร์
อาร์เซนอล ต้องระวังอดีตนักเตะอย่างโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่กำลังโชว์ฟอร์มเข้าฝัก ยิงไป 8 ประตูจาก 11 นัดรวมทุกรายการ รวมทั้งประตูที่ 100 ของสิงห์บลูส์ในซีซั่นนี้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เมสัน เมาท์ ซึ่งผ่านบอลให้ชิรูด์ยิงใส่วูล์ฟส์ ก็มีชื่อทำประตูด้วยตัวเองจากจังหวะฟรีคิกสุดฉมังเหมือนที่เขาเคยทำได้สมัยเล่นให้ทีมอคาเดมี่ของเชลซี และถือเป็นการยิงประตูที่ 2 จากจังหวะฟรีคิกโดยตรงของเดอะ บลูส์ในลีกสูงสุดฤดูกาลนี้
4 นักเตะที่ลงเล่นร่วมกับเมาท์ในเกมที่แข่งขันกับยูไนเต็ดและวูล์ฟส์ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นจากทีมเยาวชน: อับราฮัม, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย, รีซ เจมส์ และรูเบน ลอฟตัส-ชีค กับโควต้าการเปลี่ยนตัวที่มีให้เลือกมากเป็นพิเศษ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สิงห์บลูส์อาจทาบสถิติส่งนักเตะโฮมโกรวน์ลงสนามทัดเทียมกับจำนวน 6 รายที่เคยทำไว้ในปี 1967 และ 5 รายเมื่อปี 1970 ในรอบชิงชนะเลิศของเอฟเอ คัพ
อีกหนึ่งศึกใหญ่ของทีมจากเมืองหลวง
เชลซี และอาร์เซนอล โคจรมาพบกันในศึกบอลถ้วยรอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ 3 จาก 4 ปีหลังสุด โดยถือเป็นการแข่งขันนัดที่ 201 ระหว่างสองสโมสร
เอฟเอ คัพ ปี 2017 รอบชิงชนะเลิศ สิงห์บลูส์ เพิ่งคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก สมัยที่ 5 ไปครองและมีโอกาสทาบสถิติการคว้าดับเบิ้ลแชมป์ 2 ครั้งของอาร์เซนอล แต่ลูกทีมของอันโตนิโอ คอนเต้ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ด้วยสกอร์ 1-2 โดยเราเหลือนักเตะ 10 คนหลังวิคเตอร์ โมเซสโดนไล่ออก
ฤดูกาลที่แล้วสองทีมจากลอนดอนพบกันอีกครั้งในการแข่งขันยูโรป้า ลีกรอบชิงชนะเลิศที่บากู เดอะ บลูส์ เป็นฝ่ายเก็บชัยด้วยสกอร์ 4-1 โดย ชิรูด์ พุ่งโหม่งเบิกร่องประตูแรกใส่อดีตต้นสังกัดของเขา ทางเพตเตอร์ เช็ก อดีตนายด่านของเราเซฟเอาไว้ไม่อยู่
เปโดร จบสกอร์ในประตูที่สองอย่างเฉียบขาด และในการลงสนามนัดสุดท้ายให้กับสิงโตน้ำเงินคราม เอเด็น อาซาร์ ยิงเบิ้ล (หนึ่งลูกจากจุดโทษ) ส่วนอาร์เซนอลได้ประตูปลอบใจจาก อิโวบี้
ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 11 ที่ทีมจากลอนดอนลงแข่งขันกันในรอบชิงชนะเลิศรายการสำคัญนับตั้งแต่ปี 1967 โดยเชลซีมีส่วนร่วม 7 จาก 10 ครั้ง
เชลซี 4-1 อาร์เซนอล | ยูโรป้า ลีก | 2017/18 |
อาร์เซนอล 2-1 เชลซี | เอฟเอ คัพ | 2016/17 |
เชลซี 2-0 ท็อตแน่ม | ลีก คัพ | 2014/15 |
ท็อตแน่ม 2-1 เชลซี | ลีก คัพ | 2007/08 |
เชลซี 2-1 อาร์เซนอล | ลีก คัพ | 2006/07 |
อาร์เซนอล 2-0 เชลซี | เอฟเอ คัพ | 2001/02 |
ท็อตแน่ม 1-0 คิวพีอาร์ | เอฟเอ คัพ (รีเพลย์) | 1981/82 |
เวสต์ แฮม 1-0 อาร์เซนอล | เอฟเอ คัพ | 1979/80 |
เวสต์ แฮม 2-0 ฟูแล่ม | เอฟเอ คัพ | 1974/75 |
ท็อตแน่ม 2-1 เชลซี | เอฟเอ คัพ | 1966/67 |
คว้าแชมป์ทั้งนักเตะและโค้ช
1 ใน 2 โค้ชที่จะลงคุมทีมวันเสาร์นี้ จะเข้าไปติดในลิสต์ของนักเตะและผู้จัดการทีมที่เคยได้แชมป์เอฟเอ คัพจากสโมสรเดียวกัน สองคนสุดท้ายที่ทำได้ในนามเชลซีคือ จานลูก้า วิอัลลี่เมื่อปี 2000 และร็อบบี้ ดิ มัตเตโอ ในปี 2012
จานลูก้า วิอัลลี่ (เชลซี) | 1996/97 | 1999/00 |
โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ (เชลซี) | 1996/97 | 2011/12 |
จอร์จ เกรแฮม (อาร์เซนอล) | 1970/71 | 1992/93 |
เคนนี่ ดัลกลิช (ลิเวอร์พูล) | 1985/86 | 1988/89 |
เทอร์รี่ เวเนเบิ้ลส์ (ท็อตแน่ม) | 1966/67 | 1990/91 |
สแตน ซีย์มัวร์ (นิวคาสเซิ่ล) | 1923/24 | 1950/51 |
แฟรงค์ แลมพาร์ด คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 4 สมัยตอนที่เป็นนักเตะ โดยเขาจะเป็นนายใหญ่สิงห์บลูส์คนที่ 7 ที่พาทีมทะลุเข้ารอบชิงขนะเลิศในการทำงานที่เดอะ บริดจ์ซีซั่นแรกต่อจาก เกล็นน์ ฮอดเดิ้ล, รุด กุลลิต, กุ๊ส ฮิดดิงค์, คาร์โล อันเชล็อตติ, โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ และอันโตนิโอ คอนเต้ มีโค้ชทั้งหมด 8 คนที่เคยคว้าโทรฟี่ใบนี้ร่วมกับเชลซี
กฎเอฟเอ คัพรอบชิงชนะเลิศ
แต่ละทีมสามารถเปลี่ยนตัวนักเตะได้ 5 คนในการแข่งขันนัดนี้ (6 คนหากเกมดำเนินถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ) โดยจะมีการพักดื่มน้ำในระหว่างครึ่งทางของครึ่งแรกและครึ่งหลัง เทคโนโลยี VAR จะถูกนำมาใช้ในจังหวะสำคัญ
หากสกอร์เสมอกันในเวลาปกติ การต่อเวลาพิเศษ 2 ครึ่ง แบ่งเป็นครึ่งละ 15 นาทีจะถูกนำมาใช้ และจะต้องดวลจุดโทษตัดสินหากว่าจำเป็น เชลซี และอาร์เซนอล เอาชนะคู่แข่งด้วยการดวลจุดโทษในทุกรายการ 3 จาก 5 ครั้งหลังสุด โดย “ปืนใหญ่” ปราชัยให้กับลิเวอร์พูลในการยิงจุดโทษหนล่าสุดกับลิเวอร์พูลในศึกคาราบาว คัพ
ผู้ชนะจากเกมนี้จะต้องเผชิญหน้ากับลิเวอร์พูล ที่มีดีกรีเป็นแชมป์ลีกสำหรับการแข่งขันคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ในวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม ณ สนามเวมบลีย์