กองหน้าดาวรุ่งของเชลซีพูดคุยถึงแฟรงค์ แลมพาร์ด บอสของเรา, การทำงานร่วมกับคนคุ้นหน้า, บทเรียนจากความพ่ายแพ้ และการได้ลงเล่นในเวทีใหญ่...

12 - 2018/19 24

นั่นคือช่วงเวลานี้ของเมื่อปีก่อน มีหลายปัจจัยที่ทำให้เขาพลาดโอกาสสานต่อฟอร์มการเล่นของตัวเองได้ เขาทุ่มเทฝึกซ้อมและฟื้นฟูร่างกายอย่างหนักในช่วงซัมเมอร์ จนกลับมาได้ก่อนกำหนดในเดือนกันยายน ทำประตูในเกมชนะกริมสบี้ ทาวน์ 7-1 ในรายการคาราบาว คัพ โดยก่อนหน้านั้นห้าวัน เขาจรดปากกาเซ็นสัญญาใหม่กับทีมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์

หลังทำงานอย่างหนักจนกลับมาฟิตเต็มร้อยอีกครั้ง ฮัดสัน-โอดอยได้ลงเล่นหกเกมรวดในเดือนมกราคม ก่อนจะบาดเจ็บแฮมสตริงอีกครั้งในเกมพบเลสเตอร์ ซิตี้

เมื่อเข้าสู่เดือนมีนาคม ฮัดสัน-โอดอยใกล้จะได้คืนสนามอีกครั้ง แต่การระบาดของไวรัสโคโรน่าทำให้ฟุตบอลต้องหยุดพักการแข่งขันไปแบบไม่มีกำหนด ฮัดสัน-โอดอยยังเป็นนักเตะพรีเมียร์ลีกคนแรกที่มีผลตรวจการติดเชื้อไวรัสดังกล่าวออกมาเป็นบวก แต่เขารายงานว่าตัวเองไม่มีอาการหลงเหลือแล้ว และกำลังรักษาความฟิตของตัวเองอยู่ที่บ้านตลอดช่วงที่ล็อคดาวน์จนถึงวันนี้

“ผมรู้สึกดีมากเลยตอนนี้” เขากล่าวผ่านการให้สัมภาษณ์กับ Chelsea TV ในเดือนนี้ “ผมสบายดี ฟิตพร้อม และรู้สึกว่ากลับมาเป็นตัวเองอีกครั้งแล้ว”

ก่อนที่จะมีการสั่งพักแข่งฟุตบอลและมีช่วงเวลาที่ไม่ดีนักสำหรับแข้งวัย 19 ปีรายนี้ แต่เขาก็แฮปปี้ที่ได้ทำงานร่วมกับแฟรงค์ แลมพาร์ด

จากที่เคยได้เห็นอดีตกองกลางสิงห์บลูส์ประสบความสำเร็จในการคุมทีมดาร์บี้ เคาน์ตี้มาเมื่อปีที่แล้ว เขาก็ยังคงรู้สึกกระหายที่จะได้เรียนรู้จากชายผู้ที่เขาติดตามมาตั้งแต่เด็ก

“ผมคิดเสมอเลยนะว่าเขาจะเป็นผู้จัดการที่ดีได้ เมื่อได้ลงสนามตอนที่ยังเล่นอยู่” ฮัดสัน-โอดอยกล่าว “พูดได้เลยว่าเขาคาดหวังอะไรจากลูกทีมของเขาสูงมากเลยล่ะครับ”

“เป็นความรู้สึกที่มหัศจรรย์มากเลยนะที่ได้รู้ว่าอดีตนักเตะ อดีตตำนานของเชลซีได้กลับมาทำงานให้สโมสรอีกครั้ง และเราต่างก็ได้ทำงานร่วมกับเขาอยู่ ทุกวันเราต่างก็อยากเรียนรู้และพัฒนาให้ดีขึ้น แน่นอนว่าเขาคือคนที่รู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะได้เป็นนักเตะระดับท็อป ทำให้เราต่างก็อยากเรียนรู้จากเขา และบางทีวันนึงเราอาจจะได้เป็นตำนานของเชลซีบ้างก็ได้!”

ฮัดสัน-โอดอยได้ร่วมงานกับโจดี้ มอร์ริส และโจ เอ็ดเวิร์ดอีกครั้ง ซึ่งทั้งสองเคยทำงานร่วมกับฮัดสัน-โอดอยมาตั้งแต่ที่เล่นในอะคาเดมี่ของเชลซี มีส่วนสำคัญในการพัฒนาทักษะของฮัดสัน-โอดอยอย่างมาก และเจ้าตัวก็ยอมรับว่าการทำงานร่วมกับคนที่คุ้นหน้ากันดีนั้นจะเป็นประโยชน์กับทีมมาก

“โจดี้ผูกพันกับอะคาเดมี่มาก เขารู้จักนักเตะและทีมงานทุกคนที่อยู่ในนั้น” เขาพูดคุยถึงโค้ชที่เคยคว้าแชมป์รุ่น U18 ด้วยกันมาหลายถ้วย “ผมคิดว่าเขารู้ดีว่าเมื่อไรที่นักเตะพร้อมที่จะลงสนามเพื่อฝึกซ้อม”

“เขาช่วยรวมนักเตะทุกคนให้เป็นหนึ่งเดียว และเขาทำให้ทุกคนรู้ว่าถ้าคุณทำได้ดีและฝึกซ้อมให้หนักมากพอ คุณก็จะมีโอกาสได้ลงสนาม”

“มันทำให้เรามีความรู้สึกที่พิเศษและอยากทำงานให้หนักมากขึ้น เพราะคุณต้องการที่จะลงสนามจริง เราอยากเล่นให้มากที่สุด เราจะรู้สึกว่าถ้าโจดี้อยู่ตรงนั้น เขาจะพยายามผลักดันดาวรุ่งให้ได้ขึ้นมาเล่นในทีมหลักเต็มที่เลย”

สัปดาห์นี้ของเมื่อสี่ปีก่อน ทีม U19 ของเชลซีคว้าแชมป์ยูฟ่า ยูธ ลีกได้ที่สวิตเซอร์แลนด์ เป็นการคว้าแชมป์ฤดูกาลที่สองติดต่อกัน ฮัดสัน-โอดอยไม่ได้ร่วมรายการจนกระทั่งฤดูกาล 2017/18 ที่เราแพ้บาร์เซโลน่าในรอบชิงชนะเลิศ เป็นประสบการณ์ที่เขาบอกว่ายากจะยอมรับ แต่ก็เป็นบทเรียนครั้งสำคัญ

“ความทรงจำครั้งนั้นยังคงอยู่ในหัวผมตลอด เพราะมันเป็นเกมใหญ่ เป็นเกมรอบชิงชนะเลิศ ผมไม่ชอบความรู้สึกเวลาที่แพ้” เขายอมรับ “เรามีความมุ่งมั่นที่จะคว้าชัยชนะมาให้ได้ ทุ่มเทกันเต็มร้อย แต่เราพลาดท่าแพ้ในเกมนั้น”

“เราทุกคนได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเกมนั้น มันทำให้เราไม่อยากแพ้ เราอยากชนะให้ได้ทุกเกม และเราพยายามมองมันในแง่บวก เพราะเราอยากจะเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะชนะในโอกาสครั้งต่อไปให้ได้”

การเดินทางไปแข่งในต่างแดนของเกมยูฟ่า ยูธ ลีก โดยเฉพาะในรอบแบ่งกลุ่มนั้นทำให้นักเตะอะคาเดมี่ของเรามีโอกาสได้สัมผัสกับคู่แข่งที่มีประสบการณ์สูงกว่า ฮัดสัน-โอดอยบอกว่าการได้นั่งแถวหลังบนเครื่องบินแล้วมองดูนักเตะรุ่นใหญ่เดินขึ้นเครื่องมามันเป็นแรงผลักดันให้กับเขา

“การได้เดินทางร่วมกับพวกเขาแล้วเห็นพี่ๆ หลายคนเดินขึ้นเครื่องมา มันรู้สึก “ว้าว” มากเลยนะ เพราะวันนึงเราก็อยากจะเป็นเหมือนพวกเขาบ้าง” แข้งดาวรุ่งของเรากล่าว เราอยู่ในวัยที่เริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ เข้าใกล้ความฝันขึ้นเรื่องๆ และคุณรู้ว่าพวกเขาลงแข่งขันในเกมที่คุณเองก็อยากมีส่วนร่วมด้วย เรามองคนเหล่านี้เป็นเหมือนแบบอย่างที่ดี”

“แรงบันดาลใจของผมคือการทำให้ได้อย่างที่นักเตะรุ่นใหญ่ของเชลซีทำ ผมคิดกับตัวเองเสมอว่าวันนึงผมอยากจะลงสนามไปเล่นร่วมกับพวกเขาให้ได้”

สองปีต่อมา ฮัดสัน-โอดอยได้ลงเล่นในแชมป์เปี้ยนส์ ลีกเป็นครั้งแรกในเกมรอบแบ่งกลุ่มที่ชนะลีลล์ในฝรั่งเศสเมื่อเดือนตุลาคม ก่อนที่จะได้ลงเล่นในเกมที่เดอะบริดจ์ และทั้งสองเกมที่พบกับอาแย๊กซ์

“เมื่อคุณได้ยินเพลงโหมโรงของแชมป์เปี้ยนส์ ลีกดังขึ้น คุณจะรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้น ความแตกต่างจากการแข่งขันรายการอื่น” ฮัดสัน-โอดอยเผย “มันรู้สึกเหมือนกับว่านี่คือรายการที่ยิ่งใหญ่มาก เราทุกคนต่างก็อยากมีส่วนร่วม อยากทำให้ดีที่สุดและคว้าแชมป์มาให้ได้”

“การได้มีโอกาสลงเล่นให้ทีมอย่างเชลซีเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะคุณจะอยากลงเล่นในเวทีใหญ่ๆ ให้ได้เลย”

แอปฯ The 5th Stand พร้อมให้คุณใช้งานแล้วในรูปแบบภาษาไทย เข้าชมคอนเท้นต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับแฟนชาวไทยโดยเฉพาะ ทั้งข่าวด่วน, ไฮไลต์การแข่งขัน และอื่นๆ อีกมากมาย คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดได้เลย