ลูกยิงของเอ็นโกโล่ ก็องเต้ทำให้ทีมของแฟรงค์ แลมพาร์ดขึ้นนำ แต่สองประตูของซิตี้ช่วงก่อนหมดครึ่งแรกนั้นทำให้เกมพลิกและกลายเป็นเชลซีที่พ่ายไป

ทว่า ความกล้าหาญของทีมเยือนและผลงานในสนาม ทำให้บอสของซิตี้ต้องออกมายอมรับหลังจบเกมว่า “เชลซีทำได้ดี เป็นทีมที่เหลือเชื่อมาก ทีมและผู้จัดการมีสปิริตที่ดีและสู้ไม่มีถอยเลย ฟุตบอลกำลังจะเป็นแบบนี้ เชลซีทำได้ดีจริงๆ”

การลงแข่งแล้วพลาดเก็บแต้มเป็นเรื่องที่ยากเสมอ แต่อัซปิลิเกวต้าก็เห็นด้วยว่าทีมกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มร้อนแรง

“จากการเล่นที่เราแสดงให้เห็นในช่วงที่ผ่านมา พร้อมกับความมั่นใจในการบุกของแนวรุก ทำให้เราคุมเกมได้หลายครั้งและสร้างโอกาสได้มากมาย” กัปตันทีมของเรากล่าว “นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เรามั่นใจว่าเราจะสู้กับซิตี้ได้”

“เราลงสนามไปหลังชนะมา 6 นัดรวดในลีกและอยู่อันดับเหนือกว่าคู่แข่งด้วย เราเริ่มเกมได้ดีมากเลยนะ แต่เมื่อคุณแข่งเกมอย่างนี้ เรารู้อยู่แล้วว่ารายละเอียดเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในเกมมันสร้างความต่างได้เสมอ”

“เราบุกถึงแดนสามบ่อยมาก แต่บางครั้งก็โชคร้ายที่ไม่ได้จังหวะทำประตู ดังนั้นเราต้องพัฒนาในจุดนี้หากเราอยากจะไปได้ไกล เรารู้ว่าเรายังต้องพัฒนาอีก และทางเดียวที่ทำได้คือทำงานให้หนักและพยายามเอาชนะเกมแบบนี้ให้ได้”

รีซ เจมส์ลงสนามในช่วงครบชั่วโมง ทำให้อัซปิลิเกวต้าขยับไปเป็นแบ็คซ้าย ความอเนกประสงค์ของกัปตันทีมนี้ทำให้เจ้าตัวแฮปปี้ที่ได้ช่วยทีมเต็มที่

“คาแร็คเตอร์ของผมคือการเล่นในตำแหน่งที่หลากหลาย ผมมักจะพร้อมช่วยทีมเสมอ ไม่ว่าตำแหน่งไหนก็ตามที่ผู้จัดการทีมคิดว่าผมเล่นได้” อัซปิกล่าวต่อ “ฤดูกาลนี้ผมเล่นตำแหน่งนั้นมาแล้วที่เบิร์นลี่ย์ และช่วงครึ่งหลังของเกมเจออาแย็กซ์ และในเกมนี้ด้วย”

“มันคือการเปลี่ยนฝั่งและเล่นร่วมกับเพื่อนๆ ที่อยู่รอบตัวผม”

เกมพบซิตี้คือจุดเริ่มต้นของช่วงเวลาที่ยุ่งมากสำหรับเชลซี เป็นเกมแรกจาก 7 เกมในช่วง 22 วัน โดยเกมต่อไปจะเจอกับบาเลนเซียในแชมป์เปี้ยนส์ ลีก มาพร้อมกับโอกาสในการการันตีการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วย

“เรามีโอกาสที่ดีที่จะการันตีการเข้ารอบ ดังนั้นเราต้องลุยเต็มที่เหมือนแข่งรอบชิงชนะเลิศ” อัซปิลิเกวต้ากล่าว “เรารู้ว่าเราเจอกับทีมที่ดี เพราะบาเลนเซียชนะเราได้ในเกมที่เดอะบริดจ์ก่อนหน้านี้ ดังนั้นเราจะไปเยือนพร้อมกับความตั้งใจที่จะเอาคืนให้ได้เลย”