นับตั้งแต่ย้ายมาเชลซีปี 2012 อัซปิลิเกวต้านับเป็นกำลังหลักของทีม และในวันนี้ที่พบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาจะสวมปลอกแขนกัปตันลงสนาม แทนที่แกรี่ เคฮิลล์ ในสู่ยุคใหม่ภายใต้การคุมบังเหียนของแฟรงค์ แลมพาร์ด

‘ผมยังรู้สึกตื่นเต้นก่อนเริ่มฤดูกาล’ อัซปิลิเกวต้ากล่าว ‘ผมยังมีความกระหายและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พวกเราตั้งตารอฤดูกาลใหม่ และพวกเราต้องปรับตัวให้ได้อย่างรวดเร็ว พวกเราต้องการผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจน พวกเราทำงานอย่างหนักด้วยกัน และตอนนี้ถึงเวลาต้องดูผลลัพธ์ที่พยายามกันมา’

เมื่ออดีตเพื่อนร่วมทีมอย่างแฟรงค์ แลมพาร์ด ก้าวขึ้นมาเป็นนายใหญ่ ทำให้เขาต้องมีการปรับตัว ดังคำพูดที่เขากล่าวถึงอดีตมิดฟิลด์ของทีม

‘ตอนที่เขายังเป็นผู้เล่น เขามีความกระหายและมุ่งมั่นทุกการฝึกซ้อม และทุกๆ เกม เพื่อคว้าชัยชนะ สิ่งที่ผมเห็นจากเขาตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นเดิม เขาต้องการคว้าชัยชนะทุกๆ การแข่งขัน’ เขาอธิบาย

‘ผู้จัดการทีมทุกคนมีความแตกต่าง และระหว่างพรีซีซั่นมีการเปลี่ยนแปลงระบบและตัวผู้เล่นด้วย พวกเราต้องปรับตัวให้รวดเร็วเข้ากับสิ่งที่ผู้จัดการทีมต้องการ เขาแสดงความชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้นพรีซีซั่น พวกเราจะพัฒนาทุกๆ เรื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในเกมวันอาทิตย์’

การสวมปลอกแขนกัปตันทำให้เขาต้องรับหน้าที่เป็นแกนนำให้กับรุ่นน้องที่รายล้อม

‘ตลอดทั้งฤดูกาล ผมต้องทำหน้าที่รับผิดชอบมากกว่าเดิม’ เขากล่าว ‘พวกเรามีนักเตะอายุน้อย มันจึงเป็นความรับผิดชอบทั้งในและนอกสนามพาพวกเขาเหล่านั้นเดินตามแนวทางที่ถูกต้อง และช่วยเหลือในสิ่งที่เขาต้องการ’

‘พวกเขาทุกคนมีความฝันของตัวเองในการติดทีมชุดใหญ่ และเป็นส่วนสำคัญของสโมสร พวกเขาต้องรับผิดชอบเพื่อที่จะพัฒนามากกว่าเดิม และทำให้รู้สึกว่าเขาเป็นส่วนสำคัญในอีกสองปีถัดไป’