50 ปี อาจเป็นเวลาที่นาน แต่คุ้มค่ากับการรอคอยเมื่อเชลซีได้คว้าแชมป์ลีกอังกฤษอีกครั้ง ในโอกาสเริ่มต้นเดือนที่เราคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกเมื่อ 15 ปีก่อน เราได้ย้อนไปดูเรื่องราวในฤดูกาล 2004/05 กันอีกครั้ง เริ่มต้นด้วยช่วงซัมเมอร์แห่งการเปลี่ยนแปลง...
“ผมไม่สามารถสัญญาอะไรกับแฟนๆ ได้ แต่ผมเข้าใจดีว่าพวกคุณคาดหวังอะไร เราเป็นทีมที่แข็งแกร่ง พร้อมลุยไปด้วยกันเพื่อความฝันของเรา” - โชเซ่ มูรินโญ่
ในฤดูกาล 1998/99 เชลซีอยู่ห่างจากการคว้าแชมป์แรกในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ปี 1955 เพียงสี่แต้ม และนั่นคือโอกาสครั้งใหญ่ที่หลุดลอยไปสำหรับสิงห์บลูส์
แต่เราไม่ต้องรอคอยกันนานนัก เมื่อโรมัน อับราโมวิชก้าวเข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรในปี 2003
ในฤดูกาลแรก เชลซีได้คว้าตัวสตาร์ดังในวงการฟุตบอลมาร่วมทัพหลายคน พลาดท่าเสียแชมป์ให้กับอาร์เซนอล และตกรอบรองชนะเลิศแชมป์เปี้ยนส์ ลีกที่พบกับโมนาโก ทำให้เราไม่ได้ไปเจอกับปอร์โต้ที่คุมโดยโชเซ่ มูรินโญ่ในรอบชิงชนะเลิศ แต่ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา กุนซือเลือดโปรตุเกสก็ได้เข้ามารับตำแหน่งที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นจุดเริ่มต้นของช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่
ในตอนนั้นมีมาร์กแซล เดอไซญี่เป็นกัปตันทีม และมีหัวหอกอย่างจิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์เป็นเหมือนแข้งระดับบิ๊กของทีม
แต่เชลซีคว้าตัวนักเตะหน้าใหม่เข้ามาเสริมทัพด้วยเช่นกัน ทั้งเพตเตอร์ เช็ก (แรนส์), ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, เปาโล แฟร์เรร่า (จากปอร์โต้ทั้งคู่), ติอาโก้ (เบนฟิก้า), อาร์เย่น ร็อบเบน, มาเตย่า เคซมัน (พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่นทั้งคู่) และดิดิเยร์ ดร็อกบา (มาร์กเซย) ขณะที่อเล็กซี่ สเมอร์ตินกลับจากการถูกยืมไปเล่นให้พอร์ตสมัธ
ทางสโมสรคว้าตัวดร็อกบามาด้วยค่าตัวทำลายสถิติ ซึ่งในตอนนั้นเขายังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แม้ว่าจะทำลวงผ่านแนวรับของลิเวอร์พูลและนิวคาสเซิลได้ในเกมยูฟ่า คัพ เมื่อมาร์กเซยผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้
นอกจากการซื้อขายนักเตะแล้ว หนึ่งในการตัดสินใจครั้งใหญ่ของกุนซือใหม่รายนี้คือการเลือกกัปตันทีมคนใหม่มาแทนเดอไซญี่ที่ย้ายออกไป
มีคำถามเกิดขึ้นในตอนนั้นว่ามูรินโญ่จะส่งปลอกแขนกัปตันทีมให้กับใครระหว่างจอห์น เทอร์รี่หรือแฟรงค์ แลมพาร์ด ซึ่งทั้งคู่เป็นคนที่ได้รับการยอมรับนับถือจากนักเตะคนอื่นๆ มากที่สุด แต่มีแค่คนเดียวที่จะได้ปลอกแขนไป สุดท้ายคือเป็นเทอร์รี่ที่ได้เป็นกัปตันทีม และแลมพาร์ดเป็นรองกัปตันทีม
“ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากมาร์กแซล” เจทีเขียนลงหนังสือโปรแกรมการแข่งขันครั้งแรกในฐานะกัปตันทีม “ก่อนหน้านั้นผมมีไวส์คอยสอนผมมาตลอด ไม่ใช่แค่เรื่องในสนาม แต่ยังมีการนำทีมด้วย ประสบการณ์เหล่านี้หล่อหลอมให้ผมกลายมาเป็นกัปตันทีม ผมภูมิใจมากเลยนะ มันทำให้ผมมีความสุขมากเลย”
การตัดสินใจครั้งนั้นได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนบอล เช่นเดียวกับการตั้งสตีฟ คล้าร์ก ขึ้นเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมชุดใหญ่ด้วย มูรินโญ่กล่าวว่า “เขาคือชายที่รู้เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับฟุตบอล... เป็นคนที่ผมคุยด้วยแล้วสนุกมาก เพราะเขามักจะมีความคิดเห็นที่ดีเสมอ”
“สโมสรอายุครบ 100 ปีหลังจบฤดูกาล และการคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในตอนที่อายุครบ 50 ปี” เทอร์รี่เขียนลงในหนังสือโปรแกรม “เราอยากจะเป็นแชมป์ลีกอีกครั้งในปีที่พิเศษแบบนี้ การจะทำแบบนั้นได้ เราต้องก้าวข้ามแชมป์เก่าอย่างอาร์เซนอลให้ได้ก่อน แต่หลังจากที่เอาชนะพวกเขาได้ในแชมป์เปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลที่แล้ว เราเชื่อว่าเราจะสามารถแสดงให้เห็นว่าเรามีดีกว่าพวกเขาให้ได้”
เริ่มต้นกันที่เกมเหย้านนัดพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่คุยกันมานานหลายเรื่อง ถึงเวลาแล้วที่จะเข้าสู่การแข่งขันกันเสียที...
คุณสามารถรับชมสรุปเรื่องราวในฤดูกาล 2004/05 ได้แบบเต็มๆ ที่แอปฯ The 5th Stand
แอปฯ The 5th Stand พร้อมให้คุณใช้งานแล้วในรูปแบบภาษาไทย เข้าชมคอนเท้นต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับแฟนชาวไทยโดยเฉพาะ ทั้งข่าวด่วน, ไฮไลต์การแข่งขัน และอื่นๆ อีกมากมาย คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดได้เลย