ฤดูกาล 2012/13 เป็นฤดูกาลที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของเชลซี ต้องแข่งกันไปทั้งหมด 69 นัดในเกม 8 รายการ การป้องกันแชมป์ยุโรปของเราจบลงที่รอบแบ่งกลุ่ม แต่ได้มาเล่นในยูโรป้า ลีกช่วงหลังคริสต์มาส เอาชนะสปาร์ต้า ปราก, สเตอัว บูคาเรสต์, รูเบ็น คาซาน และบาเซิล ก่อนจะเข้าไปแข่งในรอบชิงชนะเลิศที่สนามเหย้าของอาแย็กซ์

ตอร์เรสทำผลงานได้ดีในรอบน็อคเอาท์ของยูโรป้า ลีกปีนั้น ยิงไป 5 ประตูและยังคงเป็นฤดูกาลที่ทุกคนจดจำอยู่เสมอ

“ตอนเริ่มแรกมันยากมากเลยนะ เพราะเราเพิ่งคว้าชัยในแชมป์เปี้ยนส์ ลีกมา ทุกคนคาดหวังว่าเราจะทำได้อีกครั้ง แต่พลาดท่าตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม” ตอร์เรสกล่าว

“เราเจอกับช่วงเวลาที่ยาก แต่เราก็แก้ไขและเริ่มต้นเล่นได้ดีตั้งแต่กลางฤดูกาลไปจนจบเลย”

“เราเล่นในยูโรป้า ลีกพร้อมกับเป้าหมายในการคว้าแชมป์ บางทีทีมที่ไม่ได้ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ของแชมป์เปี้ยนส์ ลีกอาจไม่รู้สึกว่ายูโรป้า ลีกมีความสำคัญ แต่สำหรับเรามันไม่ใช่ เราอยากที่จะชนะรายการนี้จริงๆ”

“เราเก็บผลการแข่งขันที่ดีได้อย่างต่อเนื่องและได้ไปเจอกับเบนฟิก้าในรอบชิงชนะเลิศ” ตอร์เรสกล่าวต่อ

“เราสมควรชนะเกมนั้นจริงๆ เบนฟิก้าเล่นได้ดีมาก โดยเฉพาะในครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังเราสร้างโอกาสและคุมเกมได้ โชคร้ายที่เราเสียจุดโทษ แต่อิวาโนวิชมาโหม่งเข้าไปที่เสาสอง เป็นประตูที่ดีมากเลย เขาสมควรได้รับมันเพราะเขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมตลอดทั้งปีนั้น”

“ผมแฮปปี้มาก โดยเฉพาะกับแฟนบอลเชลซี ในตอนนั้นเราได้แชมป์ทั้งในแชมป์เปี้ยนส์ ลีกและยูโรป้า ลีกเลย”

ก่อนจะเสียจุดโทษและอิวาโนวิชมาโหม่งทำประตูชัย ตอร์เรสคือผู้ที่ยิงให้เราขึ้นนำก่อน

“ตอนนั้นเป็นสถานการณ์ที่แปลกมากเลยนะ!” ตอร์เรสหัวเราะ

“ผมไม่รู้เลยว่าฮวน มาต้าจับบอลหรือเปล่า! เพตเตอร์ เช็กขว้างบอลมาสูงมากเลย มาต้าพยายามไปให้ถึงบอล และจากนั้นผมก็ได้บอลมาพร้อมกับจังหวะที่ข้างหน้าไม่มีใครป้องกันเลย ผมมีพื้นที่ให้วิ่งเยอะมาก และนั่นคือช่วงเวลาที่ผมทำได้ดีที่สุด เป็นสัญชาตญาณของผมเลย”

“เมื่อผมเลี้ยงบอลผ่านลุยเซาเข้าไป ผมเห็นผู้รักษาประตูวิ่งขึ้นมาและมีพื้นที่ให้ผมได้เลี้ยงทะลวงเข้าไป ผมรอจังหวะก่อนจะยิงเพราะเขาวิ่งตามมา ผมเห็นช่องเล็กๆ ว่างอยู่ ผมจึงยิงผ่านเข้าไปตรงกรอบ เป็นประตูที่สำคัญมากของเราในตอนนั้น เพราะมันทำให้เราขึ้นนำ”

“ปฏิกิริยาจากแฟนบอลมันมีความหมายมากกว่าความรู้สึกของตัวผมเองอีกนะ” ตอร์เรสกล่าว

“บางครั้งผมรู้สึกว่าแฟนๆ ตั้งตารอคอยประตูของผมมากกว่าตัวผมเองอีก ผมรู้สึกว่าทุกครั้งที่ผมยิงประตูสำคัญได้ ทุกคนก็แฮปปี้มาก เพราะผมเป็นผู้ทำประตูมาตลอด ผมรู้สึกเหมือนติดค้างอะไรแฟนบอลเชลซีตลอดเวลาเลย”

อ่านความเห็นของแฟรงค์ แลมพาร์ดก่อนเกมคืนวันนี้ได้ที่นี่