แฟรงค์ แลมพาร์ด เชื่อ ลูกทีมได้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญในเกมกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่สุดท้ายเรื่องของรายละเอียดปลีกย่อยก็ทำให้ได้ผลการแข่งขันที่ไม่ต้องการ

2

แม้ว่าผลสกอร์จะออกมาอย่างที่ทราบ แต่แลมพาร์ดเองก็ได้กล่าวชื่นชมฟอร์มการเล่นของลูกทีมในเกมที่ต้องเผชิญกับคู่แข่งที่แกร่งขนาดนี้ พร้อมเผยว่าได้รับบทเรียนและซึบซับข้อดีที่ได้จากเกมนี้กลับ

“ก่อนเกมจะเริ่ม.. ด้วยฟอร์มที่ดีและการพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงหลังของเรา มันทำให้ผมอยากมาที่นี่ด้วยความกล้าหาญและมั่นใจ เราต้องมาสู้และกล้าที่จะเล่นในแบบของตัวเองทั้งยามครองบอลและไม่มีบอล” แลมพาร์ด กล่าว

“ในช่วงครึ่งแรก คุณจะเห็นได้เลยว่าพวกเขาได้แสดงมันออกมาหมดแล้ว ตอนนำ 1-0 เราคุมเกมได้อย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่เราขาดไปนิดเดียวคือแน่นอนในพื้นที่สุดท้าย พวกเขาก็มีโอกาสสวยๆ บ้างเหมือนกัน แต่เราก็ถือว่าเล่นกันได้ดีตลอดทั้งเกมนี้มีข้อดีให้เห็นมากมาย แต่สุดท้ายเราแพ้และมันทำให้เห็นแล้วว่าในเกมระดับนี้ความละเอียดในกรอบเขตโทษจะเป็นผู้ตัดสินผลลัพธ์ของทั้งสองฝั่งเอง”

การพ่ายแพ้ในลีกครั้งล่าสุดของเราคือเกมกับลิเวอร์พูลย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายน

“ดูเหมือนทุกคนจะจับจ้องกับเกมเหล่านี้ที่เราได้ลงไปเล่น เราสู้กับลิเวอร์พูลอย่างสูสีที่อิสตันบูล แต่แพ้ดวลจุดโทษ เราพ่ายต่อพวกเขาในลีกทั้งๆ ที่บุกกดดันได้อยู่ 45 นาที และเราก็ยังมาแพ้ในวันนี้ ด้วยประสิทธิภาพการเล่นที่ออกไม่ขี้เหร่เลย”

“ทั้งหมดมันเป็นเรื่องในกรอบ 18 หลา มันตัดสินได้เลยว่าคุณจะชนะหรือไม่ กับทีมอย่างลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาได้ผลที่ต้องการลากยาวเป็นเวลานานๆ ได้ เพราะพวกเขาทำงานร่วมกัน, ทำงานหนัก และรายละเอียดปีกย่อยเหล่านั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาใช้มันอย่างถูกต้อง”

“สำหรับวันนี้ หลังเดินออกจากเกม ผมคิดว่าคุณคงไม่สามารถพูดอะไรได้มากกว่าการได้เห็นสองทีมที่แข็งแกร่งมาเผชิญหน้ากันตาต่อตา ฝั่งหนึ่งคว้าชัยชนะไปเพราะลูกยิงแฉลบและโมเมนต์แห่งคุณภาพจากมาห์เรซ ที่เหลือก็ค่อนข้างสูสีนะ”

แลมพาร์ด ประเมินว่าเราเริ่มเข้าใกล้ลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้แล้วหรือยัง

“เรากำลังเข้าใกล้พวกเขา นั้นคือสิ่งที่ผมคิด เรากำลังจะลดช่องว่างนั้น แต่ผมยังไม่อยากมั่นใจประกาศตะโกนอะไรขนาดนั้น เพราะฟุตบอลคืออะไรที่เป็นวันต่อวัน สัปดาห์ต่อสัปดาห์ อีกทั้งยังต้องพร้อมตอบสนองหลังทีมฟอร์มดีเก็บชัยชนะรวดอีกด้วย”

“ผมรู้สึกว่ามันนานมากเลยนะที่เราแพ้ในลีกครั้งล่าสุด และตอนนี้เราก็ต้องกลับไปจุดนั้นเหมือนเดิมให้เร็วที่สุด”