พวกเราเคยเดินทางไปยังบ้านเกิดของโมซาร์ท, ซิกมันต์ ฟรอยด์ และอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ถึงสองครั้งในการแข่งขันเวทียุโรป และผลการแข่งขันทั้งสองครั้งจบลงด้วยการผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ

การพบกันครั้งล่าสุดของพวกเราเกิดขึ้นในศึก คัพ วินเนอร์ส คัพ ฤดูกาล 1994/95 ภายใต้การคุมทีมของเกล็น ฮ็อดเดล ในการเจอกับออสเตรีย เวียนนา รอบที่สอง

แผงแนวรับของพวกเราทำผลงานได้อย่างเหนียวแน่น ทำให้ทีมรักษาผลเสมอแบบไร้สกอร์ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ แม้ว่าเวียนนาจะเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน นั่นหมายความว่า พวกเรามีงานที่ต้องทำมากมายในการออกไปเยือนเมืองหลวงแห่งออสเตรีย

อย่างไรก็ตามเจ้าบ้านต้องพบกับความยากลำบากเมื่อเสียประตูขึ้นนำไปก่อนในช่วงครึ่งแรกจากจอห์น สเปนเซอร์ และยังเป็นประตูแห่งความทรงจำของแฟนบอลเชลซีที่ตามไปเชียร์ถึงเวียนนา

มันเป็นจังหวะบล็อคสกัดของกองหลังตัวสุดท้ายมาเข้าทางสเปนเซอร์ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 10 หลานอกกรอบเขตโทษทางฝั่งซ้าย

เขาวิ่งหน้าตั้งไปพร้อมกับบอลทะลุทะลวงผ่านคู่แข่ง ก่อนที่จะใช้ความเยือกเย็นดึงขาหลอกให้ผู้รักษาประตูลงไปกองกับพื้นและกระดกบอลเข้าไปในตาข่าย

ออสเตรีย เวียนนา ทำประตูตีเสมอจากลูกยิงฮาล์ฟ-วอลเลย์ ในช่วงครึ่งหลัง แต่จบเกมไม่มีประตูเกมขึ้นเพิ่มเติมนั่นหมายความว่า กฎประตูทีมเยือนส่งผลให้พวกเราผ่านเข้ารอบ และเอาชนะคลับ บรูซ ก่อนที่จะอกหักในการพ่ายแพ้ให้กับเรอัล ซาราโกซา ด้วยผลรวมประตู 4-3 รอบสี่ทีมสุดท้าย

สำหรับการเดินทางไปเยือนเวียนนาก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ในรายการแฟร์ คัพ ฤดูกาล 1965/66 ภายใต้การคุมทีมของทอมมี่ โดเชอร์ตี ณ จุดนั้นนับเป็นช่วงเวลาความสำเร็จของเรา เมื่อคว้าแชมป์ลีก คัพ เป็นครั้งแรก พร้อมกับถือกำเนิดดาวรุ่งเพชรเม็ดงามหลายคน และต่อมาพวกเขาเหล่านั้นพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ และคัพ วินเนอร์ คัพ ภายใต้การคุมทีมของเดฟ เซ็กตัน

การแข่งขันแฟร์ คัพ กลายเป็นรายการระดับตำนาน เมื่อพวกเราเอาชนะทีมจากอิตาลีทั้งเอซี มิลาน และโรม่า และแชมป์ลีกเยอรมัน 1860 มิวนิค และเอาชนะบาร์เซโลนา และท้ายที่สุดต้องยกธงขาวในรอบรองชนะเลิศ แต่ในเกมรอบที่สองที่พบกับวีย์เนอร์บางครั้งต้องลืมมันไป

การเผชิญหน้ากับทีมชั้นนำระดับทวีปที่เก่าแก่ที่สุดของออสเตรียในยุค 60 แม้ว่าพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากนับตั้งแต่นั้นมา และตกชั้นไปในท้ายที่สุด พวกเราก็ยังต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในเกมแรกกับพวกเขา

การเล่นที่เวียนนา พวกเราต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเมื่อมาร์วิน ฮินตันถูกไล่ออกจากสนามในเวลาที่เหลือไม่ถึง 10 นาที ก่อนที่วีย์เนอร์จะได้ประตูขึ้นนำท้ายเกมจากลูกจุดโทษ

อย่างไรก็ตาม เดอะบลูส์ ไม่ยอมแพ้ และใช้เวลาเพียงหกนาทีตีเสมอจากการยิงของเบิร์ต เมอร์เรย์ ที่เดอะบริดจ์ จากนั้นปีเตอร์ ออสกู๊ด พาพวกเราขึ้นนำเมื่อผ่านไปครึ่งชั่วโมง และสไตรเกอร์ดาวรุ่งคนนี้ทำประตูที่สามของเขาให้กับสโมสรด้วยการลงสนามไปเพียง 10 นัด ก่อนที่ปีเตอร์ โบเน็ตติ และแนวรับเพื่อนร่วมทีมช่วยกันป้องกันไม่ให้ทีมเยือนกลับมามีโอกาส และครั้งนี้เป็นทางผู้เล่นของวีย์เนอร์ถูกไล่ออกช่วงท้ายเกม

มันเป็นเกมที่น่าหดหู่ แม้ว่าพวกเราจะผ่านเข้ารอบ เพราะมันเป็นสัญญาณบ่งบอกการลงสนามนัดสุดท้ายของเคน เซลลิโต ภายใต้สีเสื้อเชลซี ฟูลแบ็ครายนี้พยายามกลับมาลงสนามหลังจากบาดเจ็บรุนแรงที่หัวเข่า แต่อาการเรื้อรังทำให้เขาต้องยุติการค้าแข้งในวัย 25 ปี รวมทั้งไม่ได้มีการประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการเป็นเวลาเกือบสามปีที่เข้าผ่าตัดหลายต่อหลายครั้ง