สรุปข้อมูลก่อนเกมพบแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดวันอาทิตย์นี้ เริ่มต้นด้วยข้อมูลตัวเลขและสถิติที่น่าสนใจของทั้งสองทีม...
สถิติของเชลซี
ยูไนเต็ดไม่แพ้ในเกมพรีเมียร์ลีก 6 นัดล่าสุดที่พบกับเชลซี ชนะ 2 เสมอ 4
แมนเชสเตอร์ ยูไนเตะชนะเกมสองนัดจาก 13 นัดล่าสุดที่เจอกับเชลซีในพรีเมียร์ลีก (เสมอ 6 แพ้ 5)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแพ้เกมพรีเมียร์ลีกมากที่สุด (18) และเสียประตูมากที่สุด (71) ในเกมพบเชลซี มากกว่าทีมอื่นๆ
ครั้งล่าสุดที่เชลซีชนะเกมในโอลด์ แทรฟฟอร์ดคือเกมเมื่อเดือนพฤษภาคม 2013 เมื่อฮวน มาต้ายิงประตูได้ในนาทีที่ 87 ทำให้เชลซีกวาดสามแต้มไปได้
ชัยชนะ 6 ครั้งล่าสุดของเชลซีที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดเกิดขึ้นภายใต้การคุมของผู้จัดการทีม 6 คน : เกล็นน์ ฮ็อดเดิ้ล, รุด กุลลิท, คลอดิโอ รานิเอรี่, โชเซ่ มูรินโญ่, คาร์โล อันเชล็อตติ และราฟาเอล เบนิเตซ
เชลซีและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเจอกันในเกมเปิดฤดูกาลมา 5 ครั้งแล้ว ล่าสุดคือที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ในปี 2004 เป็นเกมแรกที่โชเซ่ มูรินโญ่เข้ามาคุมทีมสิงห์บลูส์ ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่นเป็นฮีโร่ประตูโทนในเกมนั้น
เกมอีกสามนัดคือเกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด – ปี 1952 (แพ้ 0-2), 1953 (เสมอ 1-1) และ 1958 (แพ้ 2-5)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (18) และเชลซี (17) คว้าชัยชนะในเกมเปิดฤดูกาลได้มากกว่าทีมอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก
เชลซีแพ้แค่ครั้งเดียว (เบิร์นลี่ย์ ในบ้านตัวเองเมื่อปี 2017) จากเกมเปิดฤดูกาล 20 นัดล่าสุดในพรีเมียร์ลีก (ชนะ 16 เสมอ 3) เกมแพ้ก่อนหน้านั้นในวันเปิดฤดูกาลคือที่ไฮฟิลด์ โร้ด ที่พบกับโคเวนทรี่ในปี 1998
เชลซีแพ้แค่นั้นเดียว (ลิเวอร์พูล) ในเกม 8 นัดล่าสุดในพรีเมียร์ลีก ชนะ 4 เสมอ 3
สถิติของแฟรงค์ แลมพาร์ดในเกมพบยูไนเต็ดกับสิงห์บลูส์คือชนะ 11 เสมอ 10 และแพ้ 10
แลมพาร์ดมีอัตราความสำเร็จในฐานะผู้จัดการทีมเต็ม 100% ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อเขาคว้าชัยที่นั่นกับดาร์บี้ เคาน์ตี้ในคาราบาว คัพฤดูกาลที่ผ่านมา
ชัยชนะในลีกครั้งใหญ่ที่สุดในเกมพบแมนฯ ยูไนเต็ดของแต่ละทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด 6-0 เชลซี, โอลด์ แทรฟฟอร์ด, 26 ธันวาคม 1960เชลซี 5-0 แมนฯ ยูไนเต็ด, สแตมฟอร์ด บริดจ์, 3 ตุลาคม 1999เชลซีชนะที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ครั้งใหญ่ที่สุดคือชนะ 4-0 ในวันที่ 24 สิงหาคม 1968
พรีซีซั่น
เกม 7 นัดในซัมเมอร์นี้ พาเชลซีไปเยือนไอร์แลนด์, ญี่ปุ่น, เรดดิ้ง, ออสเตรีย และเยอรมนี แฟรงค์ แลมพาร์ดใช้นักเตะลงสนามไปรวม 36 คน
จำนวนนาทีที่ลงสนาม (รวม 643 นาที)อัซปิลิเกวต้า 426, เปโดร 418, ซูม่า 414, จอร์จินโญ่ 384, โควาซิช 367, เมาท์ 326, เอเมอร์สัน 325, ดาวิด ลุยซ์ 305, อับราฮัม 293, คริสเตนเซ่น 288, บาร์คลี่ย์ 287, เคเนดี้ 282, อาร์ริซาบาลาก้า 278, พูลิซิช 275, กาบาเยโร่ 246, อลอนโซ่ 226, บัตชูอายี่ 222, ซัปปาคอสต้า 217, บากาโยโก้ 196, ชิรูด์ 194, โทโมรี 153, ดริงค์วอเตอร์ 149, คัมมิ่ง 119, ปาล์มเมอร์ 111, กิลมัวร์ 92, เบคเกอร์ 47, อิสย่าห์ บราวน์ 47, ชาโลบาห์ 47, มัตเซ่น 47, เปียซอน 47, อั๊กโบ 47, อัมพาดู 45, กาลาเกอร์ 45, กุยฮาย 45, สเตอร์ลิ่ง 45, ก็องเต้ 18
ประตูในพรีซีซั่น (รวม 18 ประตู)บาร์คลี่ย์ 4 (2 จุดโทษ), เมาท์ 3, อับราฮัม 2 (1 จุดโทษ), บัตชูอายี่ 2, ชิรูด์ 2, พูลิซิช 2, เอเมอร์สัน 1, เคเนดี้ 1, เปโดร 1
สถิติในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมา
ลงเป็นตัวจริงมากที่สุด : อัซปิลิเกวต้า 38, จอร์จินโญ่ 37, อาร์ริซาบาลาก้า, ดาวิด ลุยซ์ และก็องเต้ 36
ยิงประตูมากที่สุด : อาซาร์ 16, เปโดร 8, ลอฟตัส-ชีค 6
แอสซิสต์มากที่สุด : อาซาร์ 15, วิลเลี่ยน 6, อัซปิลิเกวต้าและบาร์คลี่ย์ 5
คลีนชีทมากที่สุด : อาร์ริซาบาลาก้า 14
เกมลีกนับตั้งแต่ชนะเกมเยือน 3เสมอเกมเยือน 0แพ้เกมเยือน 2
สถิติน่าสนใจยังไม่มี
สถิติของแมนฯ ยูไนเต็ด
ฤดูกาลที่ผ่านมาพรีเมียร์ลีก อันดับ 6เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศลีก คัพ รอบที่สามแชมป์เปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศดาวซัลโวสูงสุดในทุกรายการ : ปอล ป็อกบา 16 ประตู
ยูไนเต็ดแพ้แค่ 6 นัด (3 นัดที่พบกับแมนฯ ซิตี้) จากเกมพรีเมียร์ลีก 65 นัดล่าสุดในโอลด์ แทรฟฟอร์ด
ทีมปีศาจแดงเก็บคลีนชีทได้สองนัดที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดในลีกฤดูกาลที่ผ่านมา (คริสตัล พาเลซ และลิเวอร์พูล) น้อยที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1962/63
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเก็บคลีนชีทไม่ได้มา 15 นัดติดต่อกันแล้วในทุกรายการเป็นครั้งแรกในยุคพรีเมียร์ลีก
ยูไนเต็ดเสียประตูในลีก 54 ประตูในฤดูกาลที่ผ่านมา มากที่สุดที่เคยเสียในพรีเมียร์ลีก และมากที่สุดในลีกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1978/79 (63)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเก็บได้ 7 แต้มจากทั้งหมด 10 นัดที่พบกับทีม “บิ๊กซิกซ์” ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมา น้อยที่สุดในบรรดาหกทีม เท่ากับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ (7) พวกเขาไม่ชนะเกมเหย้าเลยในช่วงเวลานั้น
เมื่อแข่งเกมเปิดฤดูกาลในบ้านตัวเอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแพ้แค่ครั้งเดียวจากทั้งหมด 26 นัด (ชนะ 19 เสมอ (6) แพ้เกมพบสวอนซีในฤดูกาล 2014/15
แฮร์รี่ แม็กไกวร์ นักเตะใหม่ ชนะการดวลกลางอากาศในฤดูกาล 2018/19 คิดเป็น 78% ในพรีเมียร์ลีก เป็นอัตราสำเร็จที่ดีกว่านักเตะคนอื่นๆ อีก 205 คนในลีก รองลงมาคือเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (75%)
สถิติในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมาลงเป็นตัวจริงมากที่สุด : เด เคอา 38, ป็อกบา 34, ลินเดเลิฟ และ ชอว์ 29
ยิงประตูมากที่สุด : ป็อกบา 13, ลูกากู 12, มาร์กซิยาล และแรชฟอร์ด 10
แอสซิสต์มากที่สุด : ป็อกบา 9, แรชฟอร์ด 6, ชอว์ 4
คลีนชีทมากที่สุด : เด เคอา 7สถิติของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ในการคุมทีมพบเชลซี ชนะ 1เสมอ 1แพ้ 1
พรีซีซั่น
เกม 6 นัดในพรีซีซั่นของยูไนเต็ดแข่งที่ออสเตรเลีย, สิงคโปร์, จีน, นอร์เวย์ และเวลส์ ชนะมาทุกเกมที่พบกับเพิร์ท กลอรี่, ลีดส์, อินเตอร์ มิลาน, ท็อตแน่ม, คริสเตียนซันด์ และเอซี มิลาน (จุดโทษ)
เกมพรีซีซั่นนัดสึดท้ายของพวกเขาที่เจอกับเอซี มิลานที่คาร์ดิฟฟ์เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ยูไนเต็ดใช้แผน 4-2-3-1 : เด เคอา (c), วาน-บิสซาก้า (ยัง น.65), ลินเดเลิฟ, โรโฮ (ตวนเซเบ้ น.65), ชอว์, เปเรย์ร่า (ลินกอร์ด น.65), แม็คโทมิเนย์, มาติช (เฟร็ด น.65), มาต้า (เจมส์ น.64), แรชฟอร์ด (โกเมส น.82), มาร์กซิยาล (กรีนวูด น.82)
ผู้ทำประตูในพรีซีซั่น (รวม 12 ประตู)แรชฟอร์ด 3, กรีนวู้ด 2, มาร์กซิยาล 2 (1 จุดโทษ), การ์เนอร์ 1, โกเมส 1, โจนส์ 1, ลินการ์ด 1, มาต้า 1 (จุดโทษ)
เกมลีกนับตั้งแต่ชนะเกมเหย้า 3เสมอเกมเหย้า 1แพ้เกมเหย้า 0