ทั้งสองคนเคยเข้าชิงรางวัลกับนักเตะรวม 55 คนมาแล้วในฤดูกาล 2018/19 ซึ่งเป็นรางวัลที่มาจากคะแนนโหวตของนักฟุตบอลอาชีพมากกว่า 23,000 คนที่จะเลือกนักเตะในดวงใจที่ดีที่สุดในแต่ละตำแหน่ง

นักเตะที่ได้คะแนนโหวตสูงสุด 11 คนในแต่ละตำแหน่งจะได้อยู่ในทีม 11 ดาวเตะยอดเยี่ยมของโลก ซึ่งทั้ง FIFPRO และ FIFA จะประกาศผลในวันที่ 23 กันยายน ในงาน Best Football Awards ที่เดอะสกาล่า กรุงมิลาน

ฤดูกาลที่แล้วทั้งก็องเต้และอาซาร์ต่างก็มีบทบาทสำคัญให้กับทีม ช่วยให้เราคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีกได้จากเกมพบอาร์เซนอลที่บากู

ชัยชนะครั้งนั้น รวมกับการจบอันดับสามในพรีเมียร์ลีก ทำให้เราผ่านเข้าไปแข่งในแชมป์เปี้ยนส์ ลีกได้อีกครั้งในฤดูกาลนี้

อาซาร์ย้ายจากสแตมฟอร์ด บริดจ์ไปหลังจบเกมยูโรป้ารอบชิงชนะเลิศ เข้าร่วมทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด หลังอยู่กับเชลซีมา 7 ปี

ก็องเต้เองก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับถ้วยรางวัลเช่นกัน คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, ฟุตบอลโลก, เอฟเอ คัพ และยูโรป้า ลีกมาแล้วตลอดการค้าแข้ง และเขากำลังมีโอกาสทำได้อีกครั้งกับเชลซีภายใต้การคุมทีมของแฟรงค์ แลมพาร์ด

ทีมสุดยอด 11 นักเตะประกอบด้วยผู้รักษาประตู 1 คน, กองหลัง 4 คน, กองกลาง 3 คน และกองหน้า 3 คน

พรีเมียร์ลีกมีนักเตะที่เข้าชิงรางวัลนี้มากที่สุดในบรรดา 55 คน และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009 ที่ลีกสูงสุดของอังกฤษมีจำนวนนักเตะเข้าชิงมากกว่าลาลีก้าสเปน

เช่นเดียวกับเชลซีที่มีก็องเต้และอาซาร์เข้าชิง แมนเชสเตอร์ ซิตี้มีรายชื่อเข้าชิงถึง 8 คน, ลิเวอร์พูล 7 คน, ท็อตแน่ม 4 คน และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 คน

รายชื่อทั้งหมดเป็นดังนี้

ผู้รักษาประตูอลิสซง เบ็คเกอร์ (ลิเวอร์พูล), ดาบิด เด เคอา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), เอแดร์สัน โมไรส์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้), ยาน โอบลัค (แอตเลติโก้ มาดริด), มาร์ค-อังเดร แทร์ สเตเก้น (บาร์เซโลน่า)

กองหลังจอร์ดี้ อัลบา (บาร์เซโลน่า), เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล), ดาเนียล อัลเวส (เปแอสเช/เซา เปาโล), เชา คันเซโล่ (ยูเวนตุส/แมนเชสเตอร์ ซิตี้), ดาเนียล การ์บาฆาล (เรอัล มาดริด), จอร์จิโอ้ คิเอลลินี่ (ยูเวนตุส), เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (ลิเวอร์พูล), ดิเอโก้ โกดิน (แอตเลติโก้/อินเตอร์ มิลาน), โจชัว คิมมิช (บาเยิร์น มิวนิค), คาลิดู คูลิบาลี่ (นาโปลี), อายเมริค ลาปอร์เต้ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้), มัตไตส์ เดอ ลิคต์ (อาแย็กซ์/ยูเวนตุส), เฆราร์ด ปิเก้ (บาร์เซโลน่า), เซร์คิโอ รามอส (เรอัล มาดริด), แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ลิเวอร์พูล), อเล็กซ์ ซานโดร (ยูเวนตุส), ติเอโก้ ซิลวา (เปแอสเช), ราฟาเอล วาราน (เรอัล มาดริด), มาร์เซโล่ (เรอัล มาดริด), ไคล์ วอล์คเกอร์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

กองกลาง เซร์คิโอ บุสเก็ต (บาร์เซโลน่า), คาเซมิโร่ (เรอัล มาดริด), เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้), คริสเตียน อีริคเซ่น (ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์), เฟรงกี้ เดอ ยอง (อาแย็กซ์/บาร์เซโลน่า), เอเด็น อาซาร์ (เชลซี/เรอัล มาดริด), เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (เชลซี), โทนี่ โครส (เรอัล มาดริด), อาร์เธอร์ เมโล่ (บาร์เซโลน่า), ลูก้า โมดริค (เรอัล มาดริด), ปอล ป็อกบา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), อิวาน ราคิติช (บาร์เซโลน่า), แบร์นาโด้ ซิลวา (แมนเชสเตอร์ ซิตี้), ดูซาน ทาดิช (อาแย็กซ์), อาร์ตูโร่ บิดาล (บาร์เซโลน่า)

กองหน้าเซร์คิโอ อเกวโร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้), คาริม เบนเซม่า (เรอัล มาดริด), โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ (ลิเวอร์พูล), อองตวน กรีซมันน์ (แอตเลติโก้/บาร์เซโลน่า), แฮร์รี่ เคน (ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์), โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (บาเยิร์น มิวนิค), ซาดิโอ มาเน่ (ลิเวอร์พูล), คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ (เปแอสเช), ลีโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า), เนย์มาร์ (เปแอสเช), คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ (ยูเวนตุส), โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล), ซง ฮึง-มิน (ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์), ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (แมนเชสเตอร์ ซิตี้), หลุยส์ ซัวเรซ (บาร์เซโลน่า)