หลังจากเพิ่งต่อสัญญา ฝากอนาคตไว้กับสโมสรในระยะยาว รีซ เจมส์กลับมาฟิตพร้อมสำหรับทริปเยือนเลสเตอร์ อีกครั้ง พร้อมเปิดเผยถึงเคล็ดลับฝึกฝนในการครอสบอลสุดเฉียบขาด รวมไปถึงคู่แข่งที่สร้างความลำบากให้เขามากที่สุดตั้งแต่เผชิญหน้ามาในซีซั่นนี้

20 , , 90

อย่างไรก็ตาม เทคนิคอันแพรวพราวของเขามากกว่าที่ทำให้เจ้าตัวโดดเด่นในสายตาคน เหมือนที่เขาได้แสดงออกมาให้เราเห็นนับครั้งไม่ถ้วนในสีเสื้อของเชลซีทั้ง 19 นัดที่ได้รับโอกาสลงเล่น

แข้งจากชุดเชาวชนรายนี้มีส่วนร่วมกับการทำประตูบ่อยครั้งในซีซั่นนี้ ทั้งการเปิดสกอร์แรกให้ตัวเองได้สำเร็จในเกมลีก คัพกับกริมส์บี้ ทาวน์ รวมไปถึงประตูที่เกิดขึ้นในเกมสุดดราม่ากับอาแจ็กซ์ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบแบ่งกลุ่ม

เมื่อไม่นานมานี้ เขาเพิ่งจะจัดแอสซิสต์ให้แทมมี่ อับราฮัมยิงประตูในเกมเก็บชัยนัดล่าสุดที่มีต่อเบิร์นลี่ย์ และเป็นการมีส่วนร่วมในเกมรุกที่ทำให้เจ้าหนุ่มจากลอนดอนรายนี้ได้รับเสียงชื่นชมจนตัวลอย

“เขาทำได้ยอดเยี่ยมมากในการก้าวแรกของเขาบนทีมชุดใหญ่ เพราะเขานำเอาประสิทธิภาพในการจ่ายบอลและพาบอลไปข้างหน้าที่ดีเข้ามา “แฟรงค์ แลมพาร์ดพูดถึงแข้งหนุ่ม

อย่างไรก็ตาม คุณภาพในการครอสบอลของเขานั้นใช้เวลาฝึกฝนไม่น้อยเลยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นนับตั้งแต่เขาได้ลงเล่นตำแหน่งแบ็คขวาในช่วงวัยรุ่น

“ผมน่าจะเริ่มฝึกฝนมันมาตั้งแต่อายุ 14 หรือ 15 ได้ เมื่อครั้งที่ผมย้ายเล่นแบ็คขวาใหม่ๆ ” เจมส์ เผย “พูดถึงตอนนั้น ผมไม่โอเคเลยที่ถูกจับไปเล่นตรงนั้น แต่เมื่อผมเริ่มโตขึ้น มันก็เริ่มเข้าใจอะไรๆ มากขึ้นไปเอง”

“ถ้าคุณส่งบอลเข้าไปถูกจุด มันก็มีโอกาสที่คนจะสร้างความผิดพลาดและทำเข้าประตูตัวเองไป ผมไม่ได้ซ้อมมันทุกวันหรอก เพราะแน่นอนมันจะต้องมีช่วงก่อนเกม ที่เราจะต้องไปทำอย่างอื่นบ้าง แต่ยังไงแล้วผมก็จะหาเวลาในสัปดาห์มาฝึกการครอสนี่แหละ”

การอุทิศตนฝึกฝนอย่างหนักของเขาเริ่มเห็นผล รวมไปถึงการได้ซ้อมและลงสนามเป็นประจำที่ทำให้เขาพัฒนาเทคนิคของตัวเองอย่างรวดเร็ว”

“ถ้าคุณอยู่ในทีมแต่ไม่ค่อยได้ลงเล่น คุณก็จะไม่เข้าใจเลยว่าควรรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ยังไงหรือว่าเมื่อไหร่ ยิ่งคุณเล่นมากเท่าไหร่ ความชำนาญและความคล่องแคล่วก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น”

ในนัดนี้เจมส์จะต้องเผชิญกับเพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษชุด U-21 ของเขาอย่างฮาร์วี่ย์ บาร์นส์และเดมาราย เกรย์ในค่ำคืนนี้ที่คิง พาวเวอร์ สเตเดียม ทว่ายังมีผู้เล่นริมเส้นที่พัฒนาขึ้นมาจากระบบฟุตบอลอังกฤษแท้อีกคนหนึ่งที่แข้งหมายเลข 24 ของเรายกย่องให้เป็นนคู่แข่งที่อันตรายที่สุดเท่าที่เคยเจอมา

“วิลฟรีด ซาฮา – เขามีสกิลเหลือล้นและเขาก็เร็วมากๆ เขาอาจจะดูตัวบางนะ แต่ผมไม่เคยรู้ว่าก่อนเลยว่าเขาแข็งแรงขนาดไหน จะได้มาชนตัวต่อตัวกับเขา”

“มันจะมีผู้เล่นที่อยู่อีกระดับหนึ่งเลย และทุกๆทีมจะมีนักเตะอยู่ 3-4 คนที่คุณมักจะนึกในใจว่า ’บ้าจริง! พวกนายไม่ได้ไปเล่นในทีมใหญ่กว่านี้ได้ไงเนี่ย? ลีกของเรามีผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมเต็มไปหมดจริงๆ”

หลังจากได้มีส่วนร่วมกับการออกสตาร์ทให้เชลซีบ่อยครั้ง เจมส์ยอมรับว่าเซอร์ไพรซ์ไม่น้อยที่เขาสามารถพัฒนาขึ้นมาได้ขนาดนี้ หลังต้องฟื้นฟูอาการบาดเจ็บข้อเท้าเมื่อช่วงซัมเมอร์ พร้อมยืนยันว่าจะมุ่งมั่นตอบแทนความไว้วางใจที่แลมพาร์ดมอบให้

“มันเริ่มอย่างช้าๆ และค่อยเป็นค่อยไป” แข้งดาวรุ่งกล่าว “ผมได้รับบาดเจ็บในช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้ว หลังจากนั้นก็เริ่มได้ลงสนามบ้าง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วจริงๆ ผมยังไม่อยากเชื่อเลย ผมรู้อยู่แล้วว่าอาจจะได้เล่นบ้างไม่ได้เล่นบ้าง แต่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้มีส่วนร่วมกับทีมมากขนาดนี้”

“แฟรงค์เป็นตำนานของสโมสร และมาถึงวันนี้ ใครๆก็ยังคงมองเขาเป็นแบบอย่าง เขามีคำแนะนำดีๆที่พร้อมมอบให้เราทุกคน เพราะเขาผ่านเกมในระดับสูงสุดมาแล้ว ยังไงคุณก็ต้องเชื่อฟังเขา แลมพาร์ดมีส่วนสำคัญมากนับตั้งแต่ผมหายกลับมา เขาบอกข้อดีของผมให้ฟัง รวมไปถึงจุดไหนที่เขาคิดว่าผมควรจะพัฒนา”

“ผมขอบคุณทุกคนที่นี่ที่เชื่อใจผม ผมแค่อยากลงไปเล่น ทุ่มเทเต็มที่และตอบแทนทุกๆคน”

ฟูลแบ็คหนุ่มพลาดลงเล่นใน 2 เกมหลังสุดหลังถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงครึ่งหลังของเกมพ่ายนิวคาสเซิ่ล หากแต่ตอนนี้สามารถกลับมาซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนทริปเยือนรังจิ้งจอก อีกทั้งยังเข้าใจความหมายของการดวลกันระหว่างทีมอันดับ 3 และ 4 ในค่ำคืนนี้เป็นอย่างดี

“ผมลงซ้อมในสัปดาห์นี้ และผู้รู้สึกดีขึ้นมาก ผมพลาดสองเกมหลังสุดไปเพราะบาดเจ็บตรงหลังเข่า แต่ผมยังโอเคและผมก็พร้อมแล้วสำหรับเลสเตอร์ด้วย”

“ตอนนี้เรากำลังเดินทางมาถึงโค้งสำคัญของซีซั่น มีเกมให้ต้องลงเล่นเยอะและถี่มาก คุณภาพของทีมที่เรากำลังจะต้องเจอก็อยู่ในระดับที่สุดของที่สุด”

“ถ้าคุณรั้งอยู่อันดับ 4 คุณต้องมองขึ้นไป คุณจะมามัวแต่มองลงไม่ได้ คุณจะต้องลงเล่นทุกเกมด้วยใจมุ่งจะเอาชนะเท่านั้น”

ติดตามเกมวันนี้อย่างใกล้ชิดได้ที่ Match Centre ภายในแอป 5th Stand ได้เลย!