ประตูที่สามของเอ็นโกโล่ ก็องเต้ทำให้เชลซีขึ้นนำก่อน แต่แมนเชสเตอร์ ซิตี้มายิงคืนสองประตูได้ในช่วงเวลา 15 นาที ทำให้ทีมของแฟรงค์ แลมพาร์ดเจอความปราชัยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายนมา

จบเกมกลายเป็นการแพ้เกมเยือนครั้งแรกของเชลซีในเกมเยือนตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา และทำให้ทีมหล่นมาอยู่ที่อันดับสี่

ครึ่งแรกนาที 8 – วิลเลี่ยนเกือบยิงขึ้นนำให้เชลซีได้จากจังหวะที่วิ่งทะลวงเข้าไปแล้วยิง แต่บอลพุ่งหลุดกรอบนาที 15 – ฟิกาโย โทโมรีได้บอลแล้วยิง แต่บอลเฉียดเสาไปนาที 22 – เอ็นโกโล่ ก็องเต้ซัลโวประตูให้เชลซีนำก่อน 0-1

นาที 29 – เจ้าบ้านมาได้ประตูตีเสมอจากเควิน เดอ บรอยน์ สกอร์กลายเป็น 1-1นาที 37 – มาห์เรซทำประตูให้เจ้าบ้านพลิกขึ้นนำเป็น 2-1จบครึ่งแรกเชลซีเป็นฝ่ายไล่ตามอยู่หนึ่งประตู

ครึ่งหลังนาที 53 – เอ็นโกโล่ ก็องเต้เกือบยิงได้อีกครั้ง อัซปิลิเกวต้าฝ่ากับดักล้ำหน้าแล้วจ่ายให้ก็องเต้ยิง บอลไปแฉลบออกหลังกลายเป็นลูกเตะมุมนาที 59 – เชลซีเปลี่ยนเอารีซ เจมส์ลงมาแทนเอเมอร์สันนาที 62 – จอร์จินโญ่เข้าปะทะเดอ บรอยน์แล้วโดนใบเหลืองไปนาที 65 – มาห์เรซได้จังหวะยิง แต่เกปาเซฟเอาไว้ได้หวุดหวิด

นาที 74 – เชลซีเปลี่ยนผู้เล่นสองคน ส่งบัตชูอายี่และเมาท์ลงมาแทนอับราฮัมและจอร์จินโญ่นาที 80 – วิลเลี่ยนวอลเลย์เข้าไปลุ้นประตู แต่บอลลอยไปตกบนตาข่ายด้านบนนาที 90 – แมนฯ ซิตี้ยิงเข้าประตูอีกครั้ง แต่ VAR ชี้ชัดว่าเป็นล้ำหน้าจบเกมเชลซีพลาดเก็บแต้มที่เอติฮัด สเตเดี้ยมด้วยสกอร์ 2-1

เชลซี : เกปา, อัซปิลิเกวต้า (c), ซูม่า, โทโมรี, เอเมอร์สัน (เจมส์ น.59), ก็องเต้, จอร์จินโญ่ (เมาท์ น.74), โควาซิช, วิลเลี่ยน, อับราฮัม (บัตชูอายี่ น.74), พูลิซิชสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : กาบาเยโร่, คริสเตนเซ่น, เปโดร, ชิรูด์ผู้ทำประตู : ก็องเต้ น.22ใบเหลือง : จอร์จินโญ่ น.62

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์สัน, คันเซโล่, สโตนส์, แฟร์นานดินโญ่, เมนดี้, โรดริโก้ (กุนโดกัน น.51), เดอ บรอยน์, ดาบิด ซิลวา (c)(โฟเด้น น.67), มาห์เรซ, อเกวโร่ (เฆซุส น.76), สเตอร์ลิ่งสำรองไม่ได้ลงสนาม : บราโว่, วอล์คเกอร์, อังเคลิโน่, โอตาเมนดี้ผู้ทำประตู : เดอ บรอยน์ น.29, มาห์เรซ น.37ใบเหลือง : กุนโดกัน น.90+1

กรรมการ : มาร์ติน แอตกินสัน