สเตอร์ลิ่ง ถือเป็นนักเตะคนสำคัญของ “เรือใบสีฟ้า” มาตลอด 7 ฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเขายิงประตูแตะ 2 หลักได้ทุกซีซั่น และคว้าแชมป์รายการเมเจอร์ไป 9 รายการ ซึ่ง 4 จากในนั้นคือพรีเมียร์ ลีก

 ดาวเตะผู้มีความโดดเด่นด้านการเลี้ยงบอล และสามารถลงเล่นได้ทั้ง 3 ตำแหน่งในตัวรุก หรือด้านหลังกองหน้า แข้งวัย 27 ปีรายนี้ ใช้การผสมผสานอันสมบูรณ์แบบของความแข็งแกร่ง ความเร็ว และการกะจังหวะ ในการเล่นงานกองหลัง ไม่ว่าจะตอนที่มีบอลติดเท้า หรือการวิ่งสอดเข้าช่องอย่างสม่ำเสมอ

คุณสมบัติการเล่นเกมรุกของนักเตะทีมชาติอังกฤษรายนี้ ได้ผลิตตัวเลขที่น่าประทับใจมาหลายซีซั่น รวมถึงการมีส่วนร่วม 25 ประตูเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งแมนฯ ซิตี้ รักษาแชมป์ลีก และผ่านไปถึงรอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ประตูส่วนใหญ่ของ สเตอร์ลิ่ง เกิดขึ้นจากระยะเผาขน ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงการเคลื่อนไหวอันชาญฉลาดของเขา รวมทั้งการกะจังหวะเวลาเติมเกมเข้าสู่กรอบ 18 หลา

นับตั้งแต่ฤดูกาล 2016/17 เขาเป็นเพียง 1 ใน 8 นักเตะ ที่ยิงได้มากกว่า 80 ลูกในพรีเมียร์ ลีก โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 22 ประตูในทุกรายการตลอด 5 ซีซั่นหลังสุด เช่นเดียวกับค่าเฉลี่ยการแอสซิสต์ 10 ลูกในช่วงเวลาเดียวกัน

สำหรับผลงานระดับทีมชาติ สเตอร์ลิ่ง กลายเป็นตัวหลักของ แกเร็ธ เซาท์เกต โดยเขารับใช้ทีมชาติอังกฤษไปแล้ว 77 นัด ยิงได้ 19 ประตู ซึ่ง 3 ลูกจากในนั้นเกิดขึ้นในศึกยูโร 2020 ที่เขาช่วยให้ “สิงโตคำราม” ผ่านเข้าชิงชนะเลิศที่เวมบลีย์

ในการย้ายมาค้าแข้งให้กับเดอะ บลูส์ สเตอร์ลิ่ง กล่าวว่า: ‘อย่างแรกเลยนะครับ ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาที่นี่

‘แน่นอนว่าผมประสบความสำเร็จหลายอย่างในอาชีพการค้าแข้งเท่าที่ผ่านมา แต่ยังเหลือความสำเร็จอีกมากให้ไขว่คว้า และผมก็ตั้งตารอคอยที่จะทำแบบนั้นในสีเสื้อเชลซี ภายใต้การคุมทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล

‘ลอนดอนคือบ้านของผม และเป็นจุดที่ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นสำหรับผม มันวิเศษมากที่ตอนนี้ผมได้มีโอกาสในการลงเล่นต่อหน้าเพื่อน ๆ และครอบครัวทุกสัปดาห์ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ผมเฝ้ารอที่จะได้พบกับแฟนบอลที่นั่นในเร็ว ๆ นี้

‘ผมอยากจะใช้โอกาสนี้ขอบคุณ ท็อดด์, เบห์แดด, กลุ่มเจ้าของสโมสร, โธมัส และทุกคนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการในการนำผมมาที่นี่

‘ผมรอการเริ่มลุยไม่ไหวแล้ว และอยากจะสานต่อการพูดออกมาด้วยผลงานในสนาม’

ท็อดด์ โบห์ลี่ ประธานและเจ้าของสโมสรร่วม กล่าวว่า ‘ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นนักเตะที่คว้าแชมป์มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเซ็นสัญญาเขาถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งให้ขุมกำลังของเรา เราดีใจที่ ราฮีม ในการกลับมาที่ลอนดอนร่วมกับเชลซี และเราก็เฝ้ารอที่จะได้เห็นพรสวรรค์ระดับโลกของเขาที่จะถูกแสดงออกมาที่สแตมฟอร์ด บริดจ์’

ยินดีต้อนรับสู่เชลซี ราฮีม!