แฟรงค์ แลมพาร์ดเปลี่ยนตัวนักเตะสามคนจากเกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รวมไปถึงการส่งคริสเตียน พูลิซิชลงเป็นตัวจริง และการกลับมาของเอ็นโกโล่ ก็องเต้
เมสัน เมาท์และรอสส์ บาร์คลี่ย์ถูกเปลี่ยนออกให้กับทั้งสองคน ขณะที่โอลิวิเยร์นำเป็นหัวหอกแทนที่แทมมี่ อับราฮัม
ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช และจอร์จินโญ่ลงเป็นตัวจริง ทำให้แผนการเล่นน่าจะเปลี่ยนไปเป็นแบบ 4-3-3 จากเดิม 4-2-3-1แบบในเกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็องเต้ลงเล่นช่วงท้ายเกมที่แมนเชสเตอร์ และตอนนี้ฟิตพอที่จะเริ่มเกมแล้ว
วิลเลี่ยนและโทนี่ รูดิเกอร์เป็นตัวสำรอง
ลิเวอร์พูลส่งอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลนเป็นหัวหอก และมีเจมส์ มิลเนอร์อยู่ในแดนกลาง
เชลซี (4-3-3) : เกปา, อัซปิลิเกวต้า (C), ซูม่า, คริสเตนเซ่น, เอเมอร์สัน, ก็องเต้, จอร์จินโญ่, โควาซิช, เปโดร, ชิรูด์, พูลิซิชสำรอง : กาบาเยโร่, รูดิเกอร์, อลอนโซ่, ซัปปาคอสต้า, กิลมัวร์, เคเนดี้, วิลเลี่ยน, บัตชูอายี่, อับราฮัม, โทโมรี, บาร์คลี่ย์, อับราฮัม, เมาท์
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาเดรียน, โกเมซ, มาติป, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน, มิลเนอร์, ฟาบินโญ่, เฮ็นเดอร์สัน (C), ซาลาห์, มาเน่, อ็อกซ์เลด-แชมเบอเลนสำรอง : โลเนอร์แกน, เคลเลอร์, ฮูเฟร์, เอลเลียต, ชากิรี่, บริวสเตอร์, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ไวจ์นัลดุม, โอริกิ, เฟอร์มิโน่
กรรมการ : สเตฟานี่ แฟร็พพาร์ต จากฝรั่งเศส
สถิติของเชลซีในยุโรป
เชลซีผ่านเข้ามาแข่งซูเปอร์คัพได้หลังเอาชนะอาร์เซนอลในยูโรป้า ลีก รอบชิงชนะเลิศมาด้วยสกอร์ 4-1 ที่บากูในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
เชลซียังคงไม่แพ้ใครในยุโรปฤดูกาลที่ผ่านมา (ชนะ 12 เสมอ 3) เป็นสถิติของรายการยูโรป้า ลีกด้วย
ทีมของแฟรงค์ แลมพาร์ดกำลังตั้งเป้าที่จะทำสถิติไม่แพ้ใครในยุโรปเพิ่มเป็น 15 นัดติดต่อกัน ล่าสุดที่เราแพ้คือเกมเดือนมีนาคม 2018 ในเกมแชมป์เปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีม ที่พบกับบาร์เซโลน่า (0-3)
เราทำประตูได้มากกว่า 3 ประตูในเกม 5 นัดจาก 8 นัดล่าสุดในเกมยุโรป ประตูรวม 36 ประตูในฤดูกาลที่ผ่านมานั้นขาดอีกประตูเดียวก็จะเท่าสถิติยูโรป้า ลีกที่ปอร์โต้ทำไว้ในฤดูกาล 2010/11
ประวัติศาสตร์ของเชลซีในยูฟ่า ซูเปอร์คัพ
เชลซีเข้าแข่งในยูฟ่า ซูเปอร์คัพเป็นครั้งที่ 4 แล้ว
1998 ชนะรีล มาดริด 1-02012 แพ้แตเลติโก้ มาดริด 1-42013 แพ้บาเยิร์น มิวนิคด้วยจุดโทษ หลังเสมอในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-2
แฟรงค์ แลมพาร์ดเป็นกัปตันทีมในตอนที่แพ้เมื่อปี 2012 และ 2013
สถิติของเชลซีในยุโรปเมื่อเจอกับทีมจากอังกฤษที่อิสตันบูล
เชลซีคว้าชัย 7 นัดจาก 18 นัดที่เจอกับทีมจากอังกฤษในยุโรป เสมอ 7 แพ้ 4
เชลซีแข่งเกมที่อิสตันบูลมา 3 นัด (ชนะ 1 เสมอ 1 และแพ้ 1) แต่จะแข่งที่เบซิคตัส ปาร์คเป็นครั้งแรก เกมเยือนที่เราชนะเบซิคตัส 2-0 ในฤดูกาล 2003/04 ในแชมป์เปี้ยนส์ ลีก แข่งที่สนามเกลเซนเคอร์เช่น ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
สถิติการพบกันระหว่างเชลซีและลิเวอร์พูลตั้งแต่เริ่มต้นยุค 2000 เกมคืนวันพุธนี้จะเป็นเกมที่ 60 ระหว่างเชลซีและลิเวอร์พูลในทุกรายการ ทำให้กลายเป็นการแข่งกันที่บ่อยที่สุดของสองทีมจากอังกฤษในทุกรายการของศตวรรษที่ 21 นี้
การพบกันของเชลซีและลิเวอร์พูลในยุโรป 10 นัดก่อนหน้านี้ ทั้งหมดเป็นเกมแชมป์เปี้ยนส์ ลีก 2004/05 รอบรองชนะเลิศ – ลิเวอร์พูล ชนะสกอร์รวม 1-02005/06 รอบแบ่งกลุ่ม – ทั้งสองเกมจบลงแบบไร้สกอร์2006/07 รอบรองชนะเลิศ – ลิเวอร์พูลชนะจุดโทษ หลังเสมอ 1-12007/08 รอบรองชนะเลิศ – เชลซีชนะสกอร์รวม 4-32008/09 รอบก่อนรองชนะเลิศ – เชลซีชนะสกอร์รวม 7-5