กองหลังดาวรุ่งรายนี้ลงเล่นแทนโทนี่ รูดิเกอร์ในแผนแบ็คทรีเหมือนเดิม

อีกตำแหน่งที่เปลี่ยนคือส่งเปโดรลงมาแทนรอสส์ บาร์คลีย์ แฟรงค์ แลมพาร์ดอธิบายว่าเปโดรและโทโมรีได้รับเลือกเพราะผลงานในช่วงซ้อมที่ทำได้ดี

โอลิวิเยร์ ชิรูด์ยังคงเป็นหัวหอกเหมือนเดิม แทมมี่ อับราฮัมยังคงบาดเจ็บ เมสัน เมาท์ลงเล่นขนาบข้างชิรูด์

จอร์จินโญ่และมาเตโอ โควาซิชเป็นกองกลาง มีรีซ เจมส์ลงเล่นเป็นแบ็คขวา และมาร์กอส อลอนโซ่เป็นแบ็คซ้าย

ด้านบอร์นมัธ เนธาน อะกี้กลับลงสนามในแนวรับอีกครั้ง หลังพลาดเกมสุดสัปดาห์ที่แพ้เบิร์นลี่ย์เนื่องจากบาดเจ็บ เขาลงเล่นแทนไซม่อน ฟรานซิสเป็นหนึ่งในสี่ตำแหน่งที่มีการเปลี่ยนแปลงจากเกมพบเบิร์นลี่ย์

เชลซี : กาบาเยโร่, อัซปิลิเกวต้า (c), คริสเตนเซ่น, โทโมรี, เจมส์, จอร์จินโญ่, โควาซิช, อลอนโซ่, เมาท์, เปโดร, ชิรูด์

สำรอง : เกปา, รูดิเกอร์, กิลมอร์, ลอฟตัส-ชีค, บาร์คลี่ย์, วิลเลี่ยน, บัตชูอายี่

บอร์นมัธ : แรมส์เดล, สเตซี่, เอส คุก (c), อะกี้, สมิธ, แอล คุก, เลอร์ม่า, บิลลิ่ง, เฟรเซอร์, ซี วิลสัน, คิง

สำรอง : โบรุค, ริโก้, ฟรานซิส, กอสลิ่ง, วิลสัน, สตานิสลาส, โซลังกี้

กรรมการ : อังเดร มารีเนอร์

สรุปสถิติ

บอร์นมัธชนะ 3 แพ้ 1 จากเกม 4 นัดล่าสุดที่เจอเชลซีในพรีเมียร์ลีก และกำลังลุ้นชนะทั้งเหย้าและเยือนจากเชลซีให้ได้เป็นครั้งแรกอยู่

เชลซีล้มเหลวในการทำประตู 3 ใน 4 เกมล่าสุดที่เจอเดอะเชอร์รี่ส์

12 ประตูจากเกมบอร์นมัธ พบ เชลซีในพรีเมียร์ลีก เกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลัง

เชลซีชนะ 7 จาก 12 นัดในเกมพรีเมียร์ลีกนัดเยือน 12 นัดล่าสุด (แต่ไม่ชนะสามนัดที่ผ่านมา) - มีแค่ลิเวอร์พูล (37) และแมนฯ ซิตี้ (28) ที่เก็บแต้มจากเกมเยือนได้มากกว่าเชลซีในฤดูกาลนี้ (23)

60% ของประตูในพรีเมียร์ลีกที่เรายิงได้ มาจากเกมเยือนในฤดูกาลนี้ 27 ประตูที่เรายิงได้ในเกมเยือนนั้นมากกว่าที่เคยทำไว้ตลอดทั้งฤดูกาลที่แล้วอยู่ 3 ประตู

เชลซีชนะเกมเยือนทีมจากทางตอนใต้ 11 จาก 14 นัดล่าสุด แพ้แค่เกมเดียวคือนัดเจอบอร์นมัธเมื่อเดือนมกราคม 2019

เชลซีเสียประตูคิดเป็น 45% จากจำนวนการยิงเข้ากรอบของคู่แข่งในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (37 จาก 83 ครั้ง) มากกว่าทีมอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก

ทีมของแฟรงค์ แลมพาร์ด ชนะเกมเยือนคิดเป็น 58.8% (10 นัด) จาก 17 นัดในทุกรายการของฤดูกาลนี้ แพ้ 4 นัด