รูเบน ลอฟตัส-ชีค

รูเบน ลอฟตัส-ชีค อยู่ร่วมทีมเชลซีมาตั้งแต่รุ่น U8 และมีพรสวรรค์ในการเป็นมิดฟิลด์แบบบ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ ผู้สามารถคุมเกมได้ดี

เขาเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษชุด U16 ที่คว้าแชมป์วิคตอรี่ ชิลด์ได้ และลงเล่นให้เชลซีรุ่นเยาว์ 3 ครั้ง ในขณะที่อยู่ในระดับ U15

ในฤดูกาล 2011/12 เขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจอีกครั้ง ก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ฟื้นตัวทันกลับมาเล่นในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ ยูธ คัพ ในฤดูกาลเดบิวต์เต็มตัวของเขา ได้ลงเล่นทั้งหมด 18 ครั้งให้กับทีม U18 และทำประตูแรกของเขาได้ในเกมนัดแรกของฤดูกาลที่พบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขายังได้ลงแข่งทั้งหมด 9 นัดให้กับทีม U21 ด้วย

ผลงานของเขาในแดนกลางนั้นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีม U18 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูธ คัพได้สำเร็จอีกครั้ง แลกเขาลงเล่นสามนัดในรอบสุดท้ายของรายการ NextGen Series เมื่อทีม U19 แพ้ให้กับแอสตัน วิลล่าในรอบชิงชนะเลิศ ฟอร์มการเล่นอันแข็งแกร่งของเขานั้นทำให้เขาได้รางวัลในการไปทัวร์หลังจบฤดูกาลกับทีมชุดใหญ่ในเดือนพฤษภาคม ปี 2013 ที่สหรัฐอเมริกา เป็นการแข่งขันสองนัดที่พบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้

หนุ่มน้อยรายนี้ลงเล่นให้กับทีมทั้งสองนัด ทำได้ดีในเกมแรกก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวกับนาธาน อเก้ และในเกมที่สองเขาก็ทำได้ดีอีกครั้ง แต่ก็ถูกเปลี่ยนออกเนื่องจากบาดเจ็บ

ในฤดูกาล 2013/14 เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกทีม U21 ที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ตลอดจนเป็นกัปตันทีม U18 คว้าแชมป์เอฟเอ ยูธ คัพด้วย

ฤดูกาล 2014/15

โชเซ่ มูรินโญ่ให้ลอฟตัส-ชีค ลงเดบิวต์กับทีมชุดใหญ่ในแชมป์เปี้ยนส์ ลีก เกมที่พบกับสปอร์ตติ้ง ลิสบอนในเดือนธันวาคม ปี 2014 และได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในเกมที่เราเสมอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ช่วงปลายเดือนมกราคม

เดือนกุมภาพันธ์ ลอฟตัส-ชีคก็ได้เลื่อนขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่อย่างเป็นทางการและยังเป็นหนึ่งในสมาชิกทีม U19 ที่คว้าแชมป์ยูฟ่า ยูธ ลีกจากเกมที่ชนะชัคเตอร์ โดเน็ทสค์ 3-2 เมื่อเดือนเมษายน ปี 2015 และหลังจากนั้นหนึ่งเดือนเขาก็ได้ลงเป็นตัวจริงให้กับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ลงเล่นในเกมที่พบกับลิเวอร์พูลเป็นเวลา 60 นาทีที่สแตมฟอร์ด บริดจ์

ฤดูกาล 2015/16

ช่วงต้นฤดูกาล 2015/16 ลอฟตัส-ชีคได้ลงเป็นตัวจริงในเกมแชมป์เปี้ยนส์ ลีกที่พบกับมัคคาบี้ เทล อาวิฟ ต่อด้วยเกมลีก คัพที่พบวอลซอลล์ และในพรีเมียร์ลีกที่พบแอสตัน วิลล่า แต่เกมเอฟเอ คัพ ในเดือนมกราคมนั้นเป็นเกมที่เขาทำประตูแรกได้ในเกมของทีมชุดใหญ่ ช่วยให้เราชนะสคันธอร์ปได้ และลงเล่นเต็ม 90 นาทีในเกมรอบต่อมาที่พบกับเอ็มเค ดอนส์ เดือนต่อมาเขาก็ได้รางวัลเป็นการต่อสัญญาใหม่กับเชลซี ทำให้เขาจะอยู่กับเราไปจนถึงปี 2021 เมษายน 2016 ลอฟตัส-ชีคทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ โดยยิงเปิดเกมในนัดที่ชนะแอสตัน วิลล่า 4-0

ฤดูกาล 2016/17

ภายใต้การคุมทีมของอันโตนิโอ คอนเต้ นักเตะหนุ่มรายนี้เริ่มต้นด้วยการเล่นในตำแหน่งใหม่ของทีม กุนซือชาวอิตาลีบอกว่าลอฟตัส-ชีคมีความสามารถในการเล่นเป็นสไตรค์เกอร์ เขาได้ลงเล่นสองนัดในลีกคัพ ช่วงต้นฤดูกาล 2016/17 หลังจากที่ทีมปรับเข้ากับระบบ 3-4-3 ได้ดีแล้ว เขาก็ได้ลงเล่นเป็นตัวซัพพอร์ตในแนวรุกให้กับมิชี่ บัตชูอายึ่ในเกมเอฟเอ คัพ และยังทำแอสซิสต์ให้นักเตะเบลเยี่ยมในเกมที่ชนะปีเตอร์โบโร่ห์ด้วย ลอฟตัส-ชีคลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 4 นัดในเดือนมีนาคม และเมษายน 2017 ช่วยทีมรั้งอันดับจ่าฝูงไว้ได้ ก่อนจะมาบาดเจ็บจนไม่สามารถลงเล่นได้ต่อ เมื่อฤดูกาลจบลง เขามีสถิติลงเล่นทั้งหมด 11 นัดในทุกรายการ

ฤดูกาล 2017/18

วันที่ 12 กรกฎาคม 2017 มีการประกาศว่าเขาจะถูกยืมตัวไปเล่นให้คริสตัล พาเลซจนจบฤดูกาลหน้า และแม้ว่าช่วงแรกๆ ทีมอาจจะทำได้ไม่ดีนัก แต่เขาก็เป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุด และมักจะได้ลงเล่นในตำแหน่งด้านข้าง เขาได้รับการเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เป็นครั้งแรกจากแกเร็ธ เซาท์เกต และได้ลงเดบิวต์ในเกมที่เจอกับเยอรมนีในเดือนพฤศจิกายน 2017 และได้เป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ด้วย รูเบน รักษาผลงานที่ยอดเยี่ยมในถิ่นเซลเฮิร์สต์ พาร์ค ช่วยให้ทีมไต่อันดับจากโซนหนีตกชั้น โดยเขามีส่วนร่วมกับความพ่ายแพ้เพียง 2 นัดให้กับลิเวอร์พูลและอาร์เซนอลในการลงเล่น 17 นัดหลังสุดให้กับปราสาทเรือนแก้ว เขายิงไป 2 ประตูในเกมกับสโต๊ค ซิตี้และเลสเตอร์ ซิตี้ พร้อมส่งท้ายฤดูกาลด้วยการติดทีมชาติอังกฤษไปทำศึกฟุตบอลโลก

ฤดูกาล 2018/19

เขากลับมาอยู่กับเชลซีและได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอภายใต้การคุมทีมของเมาริซิโอ้ ซาร์รี่ โดยช่วงปลายฤดูกาล ลอฟตัส-ชีค โชว์ฟอร์มที่ดีที่สุดในสีเสื้อสิงห์บลูส์ออกมา

ลอฟตัส-ชีค ยิงไป 10 ประตูจากการลงเล่น 40 นัดรวมทุกรายการ รวมถึงแฮคทริคแรกกับเชลซีในศึกยูโรป้า ลีกที่พบกับบาเต้ โบริซอฟ ไฮไลต์อื่น ๆ ของเจ้าตัวเป็นจังหวะการทำประตูชัยที่คาร์ดิฟฟ์, การยิงใส่วัตฟอร์ดและฟูแล่มในบ้าน รวมทั้งลูกยิงเบิกร่องในเกมยูโรป้า ลีก รอบรองชนะเลิศกับไอน์ทรัคต์ แฟรงค์เฟิร์ต แต่จากนั้นอาการบาดเจ็บในการลงสนามที่บอสตันทำให้เขาชวดลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศ

ฤดูกาล 2019/20

เส้นทางการฟื้นฟูร่างกายถือว่ายาวไกล แต่เขากลับมาได้ในระหว่างที่มีการล็อคดาวน์เนื่องจากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสในฤดูใบไม้ผลิ ปี 2020 และได้ลงเป็นตัวจริงหลังฟุตบอลกลับมาแข่งขันในเดือนมิถุนายน พบกับแอสตัน วิลล่า

ฤดูกาล 2020/21

ลอฟตัส-ชีค ลงเป็นตัวจริงในเกมแรกของฤดูกาล โดยเป็นแมตช์ที่เราบุกไปเอาชนะไบรท์ตัน ในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะเดือนตุลาคม เจ้าตัวโยกข้ามฝั่งจากลอนดอนไปเล่นให้ฟูแล่มด้วยสัญญายืมตัวเพื่อโอกาสการลงสนามอย่างสม่ำเสมอในลีกสูงสุด โดยเขาอยู่ในช่วงของการเรียกฟอร์มที่ดีที่สุดกลับมา หลังประสบปัญหาอาการบาดเจ็บรุนแรงบริเวณข้อเท้าในเดือนพฤษภาคม ปี 2019

ผลงานกับทีมชาติ

หลังมีชื่อติดขุมกำลังทีมชาติอังกฤษเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ลอฟตัส-ชีคได้ลุกจากม้านั่งสำรองและลงเล่นเกมนัดเปิดสนามกับตูนิเซียซึ่งสกอร์ ณ เวลานั้นเสมอกันอยู่ที่ 1-1 ถือเป็นการเริ่มต้นที่น่าประทับใจจากดาวรุ่งรายนี้ โดยเขาสร้างปัญหาให้กับคู่แข่ง ก่อนเป็นคนทำให้ทีมได้ลูกเตะมุมซึ่งนำมาสู่ประตูชัยช่วงท้ายเกมของทีมชาติอังกฤษ

จากนั้นเขาได้ลงเป็นตัวจริงในแมตช์ พบ ปานามาและเบลเยี่ยมโดยโชว์ผลงานที่ดีทั้งสองเกม ก่อนจะมีส่วนร่วมทุกนัดยกเว้นช่วง 6 นาทีสุดท้ายในเกมรอบชิงที่ 3 ซึ่งแข่งขันกับเบลเยี่ยม